top of page

9 นักธุรกิจอินเตอร์เน็ต อายุน้อยรายได้ 100 ล้าน✨


9 นักธุรกิจอินเตอร์เน็ต อายุน้อยรายได้ 100 ล้าน✨


เมื่อธุรกิจเติบโตจนกำลังการผลิตและขายจะรองรับความต้องการของลูกค้าได้ สิ่งที่ตามมาคือการยายกิจการซึ่งตามมาด้วยการลงทุนเพิ่ม ขยายโรงงาน ขยายสำนักงาน เพิ่มคนจำนวนมาก เกิดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทุกย่างก้าวที่กิจการโตไปพร้อมกัน


แต่โลกนี้ยังมีคนอีกไม่น้อยที่สามารถหาวิธีสร้างธุรกิจโดยที่เจ้าของยังคงสถานะเป็น Solo-entrepreneur หรือ ผู้ประกอบการตัวคนเดียว ที่ยังคงรักษาความเร็วและอำนาจในการคิดและตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ไปพร้อมกับขยายกิจการให้เกิดรายได้นับ ร้อย ๆ ล้านบาทไม่ต่างจากกิจการที่มีพนักงานเป็นร้อย ๆ คน!


1.Tim Ferriss | ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และธุรกิจขายความรู้

คนแรกเป็นใครไปไม่ได้ เขาคือเจ้าพ่อ Passive income ผู้สร้างเครื่องจักรทำเงินอัตโนมัติทำงานแทนเขาเกือบ 100% และใช้ชีวิตไปกับการเดินทางรอบโลก!


Tim Ferriss เป็นเจ้าของธุรกิจ Ecommerce ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ Brain Quicken โดยวางระบบต่างๆ ตั้งแต่ Outsource การผลิต การจัดเก็บ และการจัดส่งทั้งหมด ส่วนภาคการขายและการตลาดใช้ Online marketing ได้แก่ Content marketing, SEO และ Google AdWords โดยจ้างพนักงานไม่ประจำแบบ Virtual assistant คอยดูแลหลังบ้านของเว็บไซต์โดยมีอำนาจในการตัดสินใจรวมไปถึงสั่งซื้อสินค้ามาเติมสต็อกตามเงื่อนไขที่ Tim Ferriss กำหนด


ต่อมา Tim Ferriss ได้เขียนหนังสือที่ชื่อ The 4-Hour Work Week ซึ่งได้กลายเป็นหนังสือขายดีระเบิดระเบ้อสร้างยอดขายมากกว่าล้านเล่มไม่รวมแบบ Ebook บน Amazon Kindle สร้างรายได้ Passive income จากลิขสิทธิ์หนังสืออีกเป็นหลักร้อยล้านบาท!


2.Allen Walton | ธุรกิจขายกล้องสปาย

ชายคนนี้เริ่มทำงานในร้านขายกล้องสปาย (Spy camera) รับค่าแรงต่ำติดดินจนกระทั่งมีความรอบรู้ในตัวสินค้าและตลาดกล้องสปาย เขานำความรู้มาเปิดธุรกิจออนไลน์ขายกล้องสปายในเวลาต่อมาด้วยเงินทุน 1000 เหรียญหรือประมาณ สามหมื่นกว่าบาท เว็บไซต์ Ecommerce ของเขาชื่อ Spy Guy Security


Allen Walton บอกว่า “If you want to be an entrepreneur and succeed, you’re going to have to crack open books about things you never thought you’d read.” แปลว่า


“ถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเองและอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องศึกษาหาอ่านสิ่งที่คุณไม่เคยคิดว่าอยู่ดีๆ คุณจะลุกขึ้นมาอ่านมัน”


จากเด็กหน้าร้านที่ไม่สนใจการตลาดออนไลน์ วันหนึ่งเขาต้องหันมาจับหนังสือสอนทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะเรื่อง Google และ SEO (Search Engine Optimization) กระทั่งศึกษาเข้าใจเขาก็เริ่มลงทุนกับโฆษณา Google AdWords ไปพร้อมๆกับการเปิดร้าน Ecommerce และการออเดอร์สต็อกสินค้าที่ขายดีมาลงขาย


ปีด้วยวัยเพียง 27 ในปี 2014 ที่ผ่านมา ร้าน Spy Guy Security ของเขามียอดขายกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 30 ล้านบาท และจ้างพนักงานประจำเป็นครั้งแรกเพียงหนึ่งคน


3.Dan Mezheritsky | ธุรกิจเทรนเนอร์ออกกำลังกาย

Dan Mezheritsky เปิดธุรกิจชื่อ Fitness on the Go มีสโลกแกนว่า ‘We deliver fitness’ จัดส่งเทรนเนอร์ออกกำลังกายไปสอนออกกำลังกายถึงบ้านลูกค้า


เขาเริ่มธุรกิจนี้จากการจ้างเทรนเนอร์ประจำและดำเนินกิจการด้วยโมเดลนี้ถึง 6 ปีโดยมักประสบปัญหาคือ เทรนเนอร์ประจำทำงานเช้าชามเย็นชาม บางคนมีกิริยามารยาทไม่เหมาะสม และต้องการค่าแรงและสวัสดิการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาเกือบจะเลิกกิจการเพราะปัญหาเหล่านี้ จนกระทั่งเขาคิดถึงโมเดลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของอาคารชุดหรือโรงแรมไม่ได้บริหารเองแต่มีการ Outsource ทีมบริหารที่ชำนาญเฉพาะทางจากข้างนอกเกือบทั้งหมด


Dan Mezheritsky เปลี่ยนจากระบบจ้างประจำไปสู่ระบบ Franchise โดยเทรนเนอร์มืออาชีพสมัครซื้อ Franchise ต้องจ่ายเงินให้เขาเป็นรายเดือน เดือนละ 400 เหรียญเพื่อแลกกับสิทธิ์การขายเทรนนิ่งภายใต้แบรนด์ Fitness on the Go โดย เขาทำสนับสนุนเทรนเนอร์ในด้านการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การตลาดออนไลน์ และระบบการทำงานต่างๆที่เกียวกับด้านไอที


การทำเช่นนี้ส่งผลให้ เทรนเนอร์ รู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของกิจการตัวคนเดียวและทำงานอย่างมืออาชีพเพื่อให้มีงานระยะยาว ส่วนตัว Dan เองก็กลายเป็นเจ้าของตัวคนเดียวสร้างธุรกิจเทรนเนอร์ออกกำลังกายแบบ Franchise สร้างยอดขายปี 2015 สูงถึง 4 ล้านเหรียญหรือประมาณกว่า 132 ล้านบาท


4.Peter Leeds | ธุรกิจขายความรู้ด้านการลงทุน

เริ่มจากการลงทุนในหุ้นด้วยตนเองในวัย 14 ปี เป้าหมายในการเป็น Warren Buffet คนต่อไปกลับกลายเป็นเจ๊งหมดตัว เขานำความล้มเหลวเป็นบทเรียนสู่การศึกษาหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองและในที่สุดเขาก็ได้แนวทางที่ถูกใจ การลงทุนแบบ Penny stock


Peter Leeds นำความรู้ ประสบการณ์ และผลลัพธ์ต่างๆ มาเปิดเว็บไซต์ PeterLeeds.com เพื่อขายเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุน Penny Stock โดยเฉพาะ และตามมาด้วยการเขียนหนังสือสองเล่ม Invest in Penny Stocks: A Guide to Profitable Trading และ Penny Stocks For Dummies


Package เนื้อหาที่ขายประกอบด้วย Peter Leeds stock pick หรือหุ้นแนะนำ, คำแนะนำการซื้อขาย, บทวิเคราะห์หุ้น, และข่าวสารต่างๆ ส่งทางอีเมล์ในราคาเดือนละ 19 เหรียญสหรัฐฯ โดยรับประกันเรื่องความโปร่งใสโดยหุ้นเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทของหุ้นที่เขานำมาวิเคราะห์


รายได้ของ PeterLeeds.com ประมาณ 1 ล้านเหรียญขึ้นไปหรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 30 ล้านบาทต่อปีต่อเนื่องสร้างรายได้สะสมไม่น้อยกว่าร้อยล้านบาท


5.Lewis Howes | ธุรกิจขายความรู้ด้านการตลาดออนไลน์

อดีตนักฟุตบอลรูปหล่อดวงซวยประสบอุบัติเหตุในการแข่งขันกล้ามเนื้อข้อมือบาดเจ็บอย่างรุ่นแรงและไม่สามารถลงแข่งได้อีก Lewis Howes ถึงกับล้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเป็นเวลาหลายเดือนเพราะกลัวจะเสียอนาคตในอาชีพนักกีฬา จนกระทั่งเขาตั้งสติและคิดได้ว่า ‘แค่ข้อมือเสียไม่ได้เสียชีวิต’ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้คอหักหรือหลังหักในขณะที่ภาพลักษณ์ในการเป็นนักกีฬาอาชีพยังคงสถิตอยู่ในตัวเขา


Lewis Howes นำความหลงใหลในกีฬามาสร้าง Blog ที่ชื่อว่า Sport Networker เพื่อเป็นศูนย์ความรู้และข่าวสารในวงการกีฬา เป้าหมายเพื่อให้ผู้คนอุตสาหกรรมการกีฬาได้ Connect กัน เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ไปจนถึงโอกาสในการทำงานด้านกีฬา และใช้ LinkedIn เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดโซเชียลมีเดีย


เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Sport Networker และการใช้ LinkedIn ในการทำการตลาดเพื่อ Connect ผู้คนรวมนับแสนคนเข้ามาสู่ Online webinars และ Sport events ที่เขาเป็นผู้จัดสร้างรายได้จากอินเตอร์เน็ตอย่างถล่มทลาย


Lewis Howes ผันตัวมาเป็นกูรู การตลาดออนไลน์สาย LinkedIn และผลิต Information products ออกขายได้แก่ คอร์ส LinkedIn Influence, หนังสือ Linked-Working: Generating Success on LinkedIn, Ultimate Webinar Marketing Guide และ The School of Greatness: A Real-World Guide to Living Your Dreams เป็นผลให้สินค้า Information products ในพอร์ตสร้างยอดขายสะสมให้เขามากกว่าร้อยล้านบาท


6.Rachel Charlupski | ธุรกิจรับเลี้ยงเด็ก

Rachel เจ้าของ The Baby Sitting Company เริ่มต้นอาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็กในขณะศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Arizona วิธีการของเธอคือเข้าไปติดต่อโดยตรงกับทางโรงแรมและที่พักต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์บริการเลี้ยงเด็กให้กับแขกของที่พักเหล่านั้น เธอเริ่มต้นอาชีพนี้เพราะต้องการรายได้เสริม แต่ความต้องการของตลาดกลับมีมาก ทำให้เธอต้องเริ่มจ้างพนักงาน โดยเธอเป็นผู้สัมภาษณ์ คัด และฝึกคนด้วยตัวเธอเองก่อนจะปล่อยให้ไปรับงานจากลูกค้าของเธอ


นับจากปี 2005 จวบจนปัจจุบัน Rachel ต่อยอดจากการรับจ้างเพื่อหารายได้เสริมไปสู่ธุรกิจรับเลี้ยงเด็กจริงจัง ขยายจาก โรงแรม งานแต่ง งานเลี้ยง และงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อรับดูแลเด็กให้กับแขกในงาน มีทีมงานพี่เลี้ยงเด็กกว่า 1500 คนครอบคลุม 13 เมืองในสหรัฐอเมริกา สร้างรายได้ปีละกว่า 1 ล้านเหรียญ – ทีมพี่เลี้ยงเหล่านี้ทำงานแบบ Contractors ทั้งหมดโดยไม่จ้างประจำ


Rachel บอกว่าเคยจ้างพีเลี้ยงเด็กในรูปแบบพนักงานประจำและกลับกลายเป็นเพิ่มภาระให้เธอมากขึ้นจึงหันไปใช้วิธี Contractors ทั้งหมด รวมไปถึงงานส่วนอื่นๆ เช่น การตลาดออนไลน์ เป็นต้น โดยล่าสุดเพียงจ้างญาติของตัวเองมาเป็นพนักงานบัญชี กล่าวคือ ตัวเองถนัดอะไรก็ทำสิ่งนั้นตัวเอง และมอบหมายงานอื่นให้คนที่เก่งเฉพาะทางนั้นๆ ไปดูแลในรูปของ Freelance และ Outsource


7.อเล็กซ์ เลิฟเวน | Net World Sports

การขาย ‘เสาประตูฟุตบอล’ ให้ได้หลักแสนชิ้น คุณคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่?

อเล็กซ์ เลิฟเวน ทำมันได้ภายใน 1 ปี


สมัยเรียน อเล็กซ์ สั่งซื้อไม้คริกเก็ตจาก eBay ในราคา 60 ปอนด์ ด้วยความสงสัยติดค้างเขาจึงติดต่อสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิตในประเทศอินเดีย ว่าถ้าจะซื้อแบบยกแพ็ค คิดเท่าไหร่ คำตอบคือราคาอยู่ที่เพียงชิ้นละ 6 ปอนด์เท่านั้น


เขาสั่งมา 10 อัน และขายมันให้กับเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่ชิ้นละ 60 ปอนด์เท่า eBay


ปี 2009 เลิฟเวน ที่ตอนนั้นอายุแค่ 21 ปี ก่อตั้งบริษัท Net World Sports ขึ้นที่เร็กซ์แฮม ด้วยเงินลงทุน 13,000 ปอนด์ “ผมใช้เงินทั้งหมดไปกับการสั่งซื้ออุปกรณ์กีฬามาเป็นตู้คอนเทนเนอร์” เขากล่าว “แต่เมื่อมันมาถึงท่าเรือแล้ว ผมเพิ่งรู้ในตอนนั้นว่าผมต้องจ่ายค่าภาษีนำเข้าด้วย ผมเลยต้องเก็บมันไว้ที่ท่าเรืออย่างนั้น แล้วไปทำเรื่องกู้เงินกับธนาคาร พวกเขาบอกว่าผมต้องทำแผนธุรกิจเสียก่อน พวกเขาช่วยผมไม่ได้ แม่ผมก็เลยให้ยืมมา 2,000 ปอนด์แทน”


“การลงทุนที่ดีที่สุดของผมก็คือตู้คอนเทนเนอร์เหล่านั้น มันเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย”


ช่วงปี 2016-2017 Net World Sports มียอดขาย 20 ล้านปอนด์ คิดเป็นกำไรถึง 5 ล้านปอนด์


การบริหารงานด้วยตัวเองและถือหุ้นอยู่ 99% ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 55 ล้านปอนด์ และกลายเป็นนักธุรกิจอายุไม่เกิน 30 ที่ ‘รวยที่สุด’ ในเกาะอังกฤษ


8.แจ๊ค เคเทอร์ | HideMyAss!

บางที ความหงุดหงิดก็เป็นช่วงเวลาของการสร้างสรรค์ได้อยู่เหมือนกัน


ความหงุดหงิดของเจ้าหนู แจ๊ค เคเทอร์ วัย 16 ขวบ (ปัจจุบัน 29) ต่อการบล็อคเว็บไซต์เกมและเว็บฟังเพลงของเน็ตเวิร์คในโรงเรียนที่ Norfolk กลายเป็นความพยายามแฮ็คผ่านการบล็อคเหล่านั้น และเขาทำสำเร็จ “ผมคิดว่ามันน่าสนุกดีที่จะลอบผ่านการคัดกรองของโรงเรียน”


เคเทอร์ ยังเข้าใจถึงศิลปะด้านมืดในการโปรโมตเว็บและการสร้างรายได้จากอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งเกิดเป็นเว็บชื่อจั๊กจี้อย่าง Hide My Ass! (HMA) เครือข่าย virtual private network (VPN) เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบไม่ระบุตัวตน ผ่าน IP คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น


HMA สร้างรายได้จากสิ่งที่เรียกว่า ‘Affiliate Marketing’ คือเมื่อมีผู้ใช้คลิกเข้าซื้อสินค้าใดใดผ่านทาง HMA ก็จะได้ส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์จากร้านค้าออนไลน์นั้นๆ


ภายในเดือนเดียว HMA มีผู้ใช้งานหลักแสนคน และทำเงินเฉลี่ย 15,000 ปอนด์ต่อเดือน


สิบปีให้หลังจากการเปิดตัว Cator ขาย HMA ให้กับซอฟท์แวร์กรุ๊ป AVG ได้เงินมา 40 ล้านปอนด์


9.โจชัว สตีเวนส์ | One Retail Group

สนใจในการค้าขายมาตั้งแต่ยังเด็ก โจชัว คิดทำธุรกิจตั้งแต่ตอนอายุ 13 ที่ต่อสายตรงรับสกูตเตอร์จากเมืองจีนมาขายในสวนสาธารณะแถวบ้าน และเมื่อทำกำไรได้แล้ว เขาก็เอามันไปลงทุนใหม่ด้วยการซื้อมาขายเพิ่ม


ตอนอายุ 14 เริ่มขายโทรศัพท์มือถือจากจีน และอายุ 16 ขายสกูตเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, เกมคอนโซล


เหล่านั้นคือรากฐานของการก่อตั้ง One Retail Group ขึ้นในปี 2013 สร้างแบรนด์ 6 ตัวเพื่อขายสินค้าไลฟ์สไตล์, อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน จนถึงผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม ปีที่แล้วมียอดขาย 14 ล้านปอนด์ คิดเป็นกำไร 3.3 ล้านปอนด์


ปัจจุบันในวัย 29 เขามีเงินในกระเป๋า 30 ล้านปอนด์


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

Kommentare


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page