top of page

AI กับการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ


AI กับการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ  ในยุคที่สังคมกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจึงกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลก ซึ่ง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ผ่านการนำมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพ การอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน การเพิ่มปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ไปจนถึงการส่งเสริมความปลอดภัยและอิสระในการใช้ชีวิต ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล การเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ และการปรับการทำงานให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล AI จึงกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะเติมเต็มความสุขให้กับผู้สูงวัยได้อย่างดีเยี่ยม  ทีมงาน ChatStick ได้สำรวจและรวบรวมตัวอย่างของการนำ AI มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ดังนี้  1. ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะและแชทบอท (Intelligent Personal Assistants & Chatbots): AI ถูกนำมาใช้ในรูปแบบของผู้ช่วยเสมือนและแชทบอทที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้สูงอายุได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านการรับคำสั่งเสียงและการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามทั่วไป แจ้งเตือนการทานยา บอกสภาพอากาศ อ่านข่าวหรือหนังสือ เปิดเพลงหรือวิดีโอที่ชื่นชอบ ไปจนถึงการโทรหาลูกหลานหรือส่งข้อความถึงเพื่อนฝูงเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ช่วยอำนวยความสะดวกและคลายเหงาให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว  2. อุปกรณ์สวมใส่และระบบติดตามสุขภาพ (Wearables & Health Monitoring Systems): AI ถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เช่น นาฬิกาหรือกำไลข้อมือ ที่สามารถวัดชีพจร ความดันโลหิต ระดับน้ำตาล การนอนหลับ และกิจกรรมทางกายอื่นๆ ของผู้สูงอายุแบบเรียลไทม์ แล้วส่งข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลสามารถติดตามสุขภาพได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและเตือนความผิดปกติล่วงหน้า ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยฉุกเฉิน  3. หุ่นยนต์ผู้ช่วยและหุ่นยนต์เพื่อนเล่น (Assistive & Companion Robots): AI ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การเคลื่อนย้ายสิ่งของ การหยิบจับอุปกรณ์ การทำความสะอาดบ้าน หรือแม้แต่การช่วยพยุงร่างกายขณะเดิน นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคู่ใจของผู้สูงอายุ ผ่านการสนทนา เล่นเกม ร้องเพลง และแสดงท่าทางปฏิสัมพันธ์ที่เป็นมิตร ช่วยบรรเทาความเหงาและส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ  4. ระบบรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังอัตโนมัติ (Automated Safety & Monitoring Systems): AI ถูกใช้ร่วมกับอุปกรณ์ตรวจจับและกล้องอัจฉริยะ เพื่อติดตามและดูแลความปลอดภัยของผู้สูงอายุภายในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับการหกล้ม การเดินเข้าบริเวณที่ไม่ปลอดภัย การทิ้งเตาแก๊สหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ ไปจนถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น นอนนานเกินไปหรือไม่ได้ทานอาหาร เมื่อพบความผิดปกติระบบจะแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลหรือเจ้าหน้าที่ให้มาให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัยที่บ้านได้อย่างอุ่นใจและมีอิสระมากขึ้น  5. แพลตฟอร์มบริการสุขภาพและการดูแลทางไกล (Telehealth & Remote Care Platforms): AI ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและพฤติกรรมของผู้สูงอายุจากระยะไกล ผ่านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตรวจวัด เซนเซอร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ แล้วนำเสนอข้อมูลและคำแนะนำแก่ผู้ดูแลและบุคลากรทางการแพทย์ เช่น การปรับเปลี่ยนยา อาหาร หรือกิจกรรมทางกายให้เหมาะสม ไปจนถึงการจัดส่งบริการดูแลถึงบ้านเมื่อมีความจำเป็น ช่วยลดการเดินทางไปโรงพยาบาล ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสะดวกสบายในการรับบริการสุขภาพของผู้สูงอายุ  สำหรับธุรกิจ SME ที่มุ่งบริการกลุ่มผู้สูงอายุ การนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาสินค้าและบริการ ไม่เพียงจะช่วยสร้างคุณค่าและความพึงพอใจให้กับลูกค้าผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่สดใส เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุเป็นตลาดที่ใหญ่และมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการและดูแลผู้สูงอายุได้ดี จะสามารถครองใจลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้ในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้ AI ยังช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานและเพิ่มการเข้าถึงบริการไปยังผู้สูงอายุในวงกว้าง ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี  ทีมงาน ChatStick มีข้อแนะนำสำหรับธุรกิจที่อยากนำ AI มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้สูงอายุ ดังนี้  - ศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการที่หลากหลายของผู้สูงอายุให้ถ่องแท้ เพื่อออกแบบสินค้าและบริการที่ตรงใจและใช้งานง่าย  - ให้ความสำคัญกับการออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) ที่เรียบง่าย เป็นมิตร และคำนึงถึงข้อจำกัดของผู้สูงอายุ เช่น ตัวหนังสือขนาดใหญ่ เสียงชัดเจน การตอบสนองฉับไว เป็นต้น  - ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ดูแลผู้สูงอายุ ในการค้นหาโอกาสในการพัฒนา และทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์กับผู้ใช้งานจริง  - ใช้ AI ในการสร้างการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าผู้สูงอายุ ที่สามารถนำไปสู่การทำ Cross-Sell และ Up-Sell ที่เหมาะสม  - สื่อสารประโยชน์และความเอาใจใส่ผู้สูงอายุผ่านการสร้างแบรนด์ เนื้อหา และแคมเปญการตลาดที่เน้นคุณค่าทางอารมณ์ ความห่วงใย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้ในกลุ่มผู้สูงอายุ ยังมีข้อควรคำนึงด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวที่สำคัญ เนื่องจากเทคโนโลยีจำนวนมากมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ที่อาจนำไปสู่การเอาเปรียบหรือสร้างอันตรายหากไม่มีการจัดการที่ดี ธุรกิจจึงต้องวางนโยบายและมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวด ตลอดจนสื่อสารถึงการใช้งานเทคโนโลยีอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความไว้วางใจและความสบายใจให้แก่ลูกค้าผู้สูงอายุ นอกจากนี้ การใช้ AI ควรเน้นไปที่การส่งเสริมความเป็นอิสระและศักยภาพของผู้สูงอายุ ไม่ใช่การทดแทนหรือลดบทบาทของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งยังคงเป็นแหล่งของความสุขและคุณภาพชีวิตที่สำคัญที่สุดของผู้สูงอายุ  ท้ายที่สุดแล้ว ทีมงาน ChatStick เชื่อว่าในอนาคต AI จะมีบทบาทอย่างมากในการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผ่านการปรับใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายในแต่ละมิติของชีวิต ตั้งแต่การจัดการสุขภาพ ความปลอดภัย การเข้าสังคม ไปจนถึงกิจกรรมนันทนาการ ทว่าการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI สำหรับผู้สูงอายุจะต้องคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างของแต่ละบุคคล และการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในกระบวนการตั้งแต่ต้น เพื่อให้เทคโนโลยีเหล่านี้ตอบโจทย์ชีวิตจริงและยังคงไว้ซึ่งคุณค่าของความเป็นมนุษย์ได้อย่างลงตัว การผสานพลังระหว่างเทคโนโลยีและการดูแลด้วยใจของครอบครัวและสังคม จะเป็นสูตรสำเร็จในการสร้างความสุขและความมั่นใจให้กับผู้สูงวัยในยุคดิจิทัลนี้  #AIเพื่อนคู่ใจผู้สูงวัย   #AIเฝ้าระวังสุขภาพผู้สูงอายุทุกย่างก้าว  #AIมือหนึ่งด้านความปลอดภัยของผู้สูงอายุ  #AIนำบริการสุขภาพถึงบ้านผู้สูงวัย  #โอกาสทางการตลาดจากAIสำหรับผู้สูงอายุ  #สร้างแบรนด์ที่ใส่ใจผู้สูงวัยด้วยAI  #ผสานพลังAIและห่วงใยเพื่อผู้สูงวัยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี  -----------------------------------------------------------------------------------  สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง     รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์  >> https://www.chatstickmarket.com/langran   ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้  >> https://www.chatstickmarket.com/portfolio   ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙  📱Tel : 0840104252 📱0947805680  📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH   ┏━━━━━━━━━┓  📲 LINE: @chatstick  ┗━━━━━━━━━┛  หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM   🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran   🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

AI กับการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ


ในยุคที่สังคมกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจึงกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลก ซึ่ง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ผ่านการนำมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพ การอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน การเพิ่มปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ไปจนถึงการส่งเสริมความปลอดภัยและอิสระในการใช้ชีวิต ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล การเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ และการปรับการทำงานให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล AI จึงกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะเติมเต็มความสุขให้กับผู้สูงวัยได้อย่างดีเยี่ยม


ทีมงาน ChatStick ได้สำรวจและรวบรวมตัวอย่างของการนำ AI มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ดังนี้


1. ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะและแชทบอท (Intelligent Personal Assistants & Chatbots): AI ถูกนำมาใช้ในรูปแบบของผู้ช่วยเสมือนและแชทบอทที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้สูงอายุได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านการรับคำสั่งเสียงและการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามทั่วไป แจ้งเตือนการทานยา บอกสภาพอากาศ อ่านข่าวหรือหนังสือ เปิดเพลงหรือวิดีโอที่ชื่นชอบ ไปจนถึงการโทรหาลูกหลานหรือส่งข้อความถึงเพื่อนฝูงเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ช่วยอำนวยความสะดวกและคลายเหงาให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว


2. อุปกรณ์สวมใส่และระบบติดตามสุขภาพ (Wearables & Health Monitoring Systems): AI ถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เช่น นาฬิกาหรือกำไลข้อมือ ที่สามารถวัดชีพจร ความดันโลหิต ระดับน้ำตาล การนอนหลับ และกิจกรรมทางกายอื่นๆ ของผู้สูงอายุแบบเรียลไทม์ แล้วส่งข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลสามารถติดตามสุขภาพได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและเตือนความผิดปกติล่วงหน้า ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยฉุกเฉิน


3. หุ่นยนต์ผู้ช่วยและหุ่นยนต์เพื่อนเล่น (Assistive & Companion Robots): AI ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การเคลื่อนย้ายสิ่งของ การหยิบจับอุปกรณ์ การทำความสะอาดบ้าน หรือแม้แต่การช่วยพยุงร่างกายขณะเดิน นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคู่ใจของผู้สูงอายุ ผ่านการสนทนา เล่นเกม ร้องเพลง และแสดงท่าทางปฏิสัมพันธ์ที่เป็นมิตร ช่วยบรรเทาความเหงาและส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ


4. ระบบรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังอัตโนมัติ (Automated Safety & Monitoring Systems): AI ถูกใช้ร่วมกับอุปกรณ์ตรวจจับและกล้องอัจฉริยะ เพื่อติดตามและดูแลความปลอดภัยของผู้สูงอายุภายในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับการหกล้ม การเดินเข้าบริเวณที่ไม่ปลอดภัย การทิ้งเตาแก๊สหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ ไปจนถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น นอนนานเกินไปหรือไม่ได้ทานอาหาร เมื่อพบความผิดปกติระบบจะแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลหรือเจ้าหน้าที่ให้มาให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัยที่บ้านได้อย่างอุ่นใจและมีอิสระมากขึ้น


5. แพลตฟอร์มบริการสุขภาพและการดูแลทางไกล (Telehealth & Remote Care Platforms): AI ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและพฤติกรรมของผู้สูงอายุจากระยะไกล ผ่านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตรวจวัด เซนเซอร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ แล้วนำเสนอข้อมูลและคำแนะนำแก่ผู้ดูแลและบุคลากรทางการแพทย์ เช่น การปรับเปลี่ยนยา อาหาร หรือกิจกรรมทางกายให้เหมาะสม ไปจนถึงการจัดส่งบริการดูแลถึงบ้านเมื่อมีความจำเป็น ช่วยลดการเดินทางไปโรงพยาบาล ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสะดวกสบายในการรับบริการสุขภาพของผู้สูงอายุ


สำหรับธุรกิจ SME ที่มุ่งบริการกลุ่มผู้สูงอายุ การนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาสินค้าและบริการ ไม่เพียงจะช่วยสร้างคุณค่าและความพึงพอใจให้กับลูกค้าผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่สดใส เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุเป็นตลาดที่ใหญ่และมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการและดูแลผู้สูงอายุได้ดี จะสามารถครองใจลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้ในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้ AI ยังช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานและเพิ่มการเข้าถึงบริการไปยังผู้สูงอายุในวงกว้าง ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี


ทีมงาน ChatStick มีข้อแนะนำสำหรับธุรกิจที่อยากนำ AI มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้สูงอายุ ดังนี้

- ศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการที่หลากหลายของผู้สูงอายุให้ถ่องแท้ เพื่อออกแบบสินค้าและบริการที่ตรงใจและใช้งานง่าย

- ให้ความสำคัญกับการออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) ที่เรียบง่าย เป็นมิตร และคำนึงถึงข้อจำกัดของผู้สูงอายุ เช่น ตัวหนังสือขนาดใหญ่ เสียงชัดเจน การตอบสนองฉับไว เป็นต้น

- ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ดูแลผู้สูงอายุ ในการค้นหาโอกาสในการพัฒนา และทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์กับผู้ใช้งานจริง

- ใช้ AI ในการสร้างการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าผู้สูงอายุ ที่สามารถนำไปสู่การทำ Cross-Sell และ Up-Sell ที่เหมาะสม

- สื่อสารประโยชน์และความเอาใจใส่ผู้สูงอายุผ่านการสร้างแบรนด์ เนื้อหา และแคมเปญการตลาดที่เน้นคุณค่าทางอารมณ์ ความห่วงใย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้ในกลุ่มผู้สูงอายุ ยังมีข้อควรคำนึงด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวที่สำคัญ เนื่องจากเทคโนโลยีจำนวนมากมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ที่อาจนำไปสู่การเอาเปรียบหรือสร้างอันตรายหากไม่มีการจัดการที่ดี ธุรกิจจึงต้องวางนโยบายและมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวด ตลอดจนสื่อสารถึงการใช้งานเทคโนโลยีอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความไว้วางใจและความสบายใจให้แก่ลูกค้าผู้สูงอายุ นอกจากนี้ การใช้ AI ควรเน้นไปที่การส่งเสริมความเป็นอิสระและศักยภาพของผู้สูงอายุ ไม่ใช่การทดแทนหรือลดบทบาทของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งยังคงเป็นแหล่งของความสุขและคุณภาพชีวิตที่สำคัญที่สุดของผู้สูงอายุ


ท้ายที่สุดแล้ว ทีมงาน ChatStick เชื่อว่าในอนาคต AI จะมีบทบาทอย่างมากในการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผ่านการปรับใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายในแต่ละมิติของชีวิต ตั้งแต่การจัดการสุขภาพ ความปลอดภัย การเข้าสังคม ไปจนถึงกิจกรรมนันทนาการ ทว่าการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI สำหรับผู้สูงอายุจะต้องคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างของแต่ละบุคคล และการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในกระบวนการตั้งแต่ต้น เพื่อให้เทคโนโลยีเหล่านี้ตอบโจทย์ชีวิตจริงและยังคงไว้ซึ่งคุณค่าของความเป็นมนุษย์ได้อย่างลงตัว การผสานพลังระหว่างเทคโนโลยีและการดูแลด้วยใจของครอบครัวและสังคม จะเป็นสูตรสำเร็จในการสร้างความสุขและความมั่นใจให้กับผู้สูงวัยในยุคดิจิทัลนี้


#AIเพื่อนคู่ใจผู้สูงวัย

#AIเฝ้าระวังสุขภาพผู้สูงอายุทุกย่างก้าว

#AIมือหนึ่งด้านความปลอดภัยของผู้สูงอายุ

#AIนำบริการสุขภาพถึงบ้านผู้สูงวัย

#สร้างแบรนด์ที่ใส่ใจผู้สูงวัยด้วยAI

#ผสานพลังAIและห่วงใยเพื่อผู้สูงวัยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 4 ครั้ง

Kommentit


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page