📣สิทธิประโยชน์เมื่อออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

📣สิทธิประโยชน์เมื่อออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

สำหรับในบทความนี้ขอนำเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์และควรรู้เกี่ยวกับเรื่องของสิทธิและประโยชน์เมื่อมีการออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนำมาฝากกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

🔸ทำความรู้จักกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่ทางนายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นโดยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเก็บออมเงินให้กับลูกจ้างได้ใช้จ่ายตอนเกษียณอายุและถือว่าเป็นสวัสดิการส่วนหนึ่งที่ทางนายจ้างมีให้แก่ลูกจ้าง

โดยเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นจะมาจาก

- ลูกจ้างหรือสมาชิกซึ่งจะถูกหักเงินส่วนหนึ่งจากค่าจ้างเพื่อเข้ากองทุนเป็นรายเดือนหรือที่เรียกกันว่าเงินสะสม

- และสองมาจากนายจ้างซึ่งจะทำการจ่ายเงินอีกส่วนหนึ่งเข้ากองทุนเป็นประจำในทุกๆ เดือนและนอกเหนือจากการจ่ายเงินค่าจ้างประจำให้กับทางลูกจ้างประจำ โดยที่เงินในส่วนนี้นั้นจะเรียกกันว่าเงินสมทบ

🔸ข้อบังคับที่ควรทำการตรวจสอบ

1.ส่วนเงินสะสมและผลประโยชน์จากเงินในการสะสม

โดยเงินส่วนนี้นั้นจะเป็นเงินในส่วนที่ทางลูกจ้างหรือสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นทำการจ่ายเพื่อสะสมเข้ากองทุนในทุกเดือนและยังรวมถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากเงินสะสมและเมื่อความเป็นสมาชิกนั้นสิ้นสุดลงจึงทำให้ทางลูกจ้างนั้นมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินส่วนนี้อย่างเต็มจำนวนในทุกกรณี

2. ส่วนเงินสมทบและผลประโยชน์ที่ได้จากเงินสมทบ

โดยเงินในส่วนนี้นั้นเป็นส่วนที่ทางนายจ้างทำการจ่ายสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับทางลูกจ้างหรือทางสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในทุกๆ เดือนและเมื่อความเป็นสมาชิกนั้นสิ้นสุดลงเงินในส่วนนี้จะได้คืนเท่าไหร่นั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือข้อบังคับของแต่ละกองทุน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นจะกำหนดตามอายุการทำงานหรือจำนวนปีของการเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ทางพนักงานทำงานในระยะยาว

ยกตัวอย่างเช่น

- มีอายุการทำงานที่น้อยกว่าหนึ่งปีจะมีสิทธิได้รับเงินสมทบเป็นจำนวน 10%

- มีอายุการทำงานตั้งแต่หนึ่งปีเป็นต้นไปแต่ไม่ถึงสองปีจะมีสิทธิได้รับเงินสมทบเป็นจำนวน 20%

- มีอายุงานตั้งแต่สองปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงสามปีจะมีสิทธิได้รับเงินสมทบเป็นจำนวน 40%

- มีอายุงานตั้งแต่สามปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงสี่ปีจะมีสิทธิได้รับเงินสมทบเป็นจำนวน 50%

- มีอายุงานตั้งแต่สี่ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงห้าปีจะมีสิทธิได้รับเงินสมทบเป็นจำนวน 80%

- สุดท้ายมีอายุงานมากกว่าห้าปีขึ้นไปซึ่งมีสิทธิได้รับเงินสมทบเป็นจำนวน 100%

🔸สิทธิและประโยชน์ในทางภาษี

โดยเมื่อการเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะได้รับสิทธิและประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไข โดยเมื่อความเป็นสมาชิกนั้นสิ้นสุดลงในส่วนของผลประเงินสะสมนั้นจะได้รับการยกเว้นทางภาษี แต่ในส่วนของทางผลประโยชน์ที่ได้จากเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์จากทางเงินสมทบนั้นจะต้องนำไปทำการคำนวณเป็นรายได้เพื่อทำการเสียภาษี โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณีตามอายุและจำนวนปีที่เป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

กรณีที่1 มีการออกจากงานก่อนอายุ 55 ปีและมีอายุสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นน้อยกว่า 5 ปี

ซึ่งในกรณีนี้นั้นจะไม่ได้รับสิทธิและประโยชน์ในทางภาษีโดยจะต้องนำเงินที่ได้ทั้งสามส่วนนั้นได้แก่ผลประโยชน์จากเงินสะสมเงินสมทบและผลประโยชน์จากเงินสมทบนำไปรวมกับเงินได้อื่นเพื่อทำการเสียภาษีเงินได้ตามปกติ

กรณีที่2 มีการออกจากงานก่อนอายุ 55 ปีและมีอายุสมาชิกกองทุนสำรองเรียนชีพตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

โดยในกรณีนี้สามารถทำการเลือกได้ว่าจะนำไปรวมกับรายได้อื่นเพื่อทำการยื่นภาษีหรือจะทำการแยกคำนวณภาษีต่างหาก โดยในการแยกคำนวณภาษีนั้นจะทำการหักค่าใช้จ่ายแบบพิเศษโดยมี 2 ส่วนคือในส่วนที่หนึ่งนำ 7000 ไปคูณกับจำนวนปีที่ทำงานและในขณะส่วนที่สองนั้นให้นำเงินได้นั้นหักด้วยส่วนที่หนึ่งเหลือเท่าไหร่ให้นำไปคูณ 50% และนำเงินที่ได้หลังจากทำการหักค่าใช้จ่ายในสองส่วนนี้แล้วนั้นนำไปคำนวณภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา

กรณีที่3 การเกษียณอายุโดยมีอายุ 55 ปีขึ้นไปและมีอายุสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

ซึ่งในกรณีนี้นั้นจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำการเสียภาษีทั้งจำนวน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าในบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านแล้วพบกันได้ไปในบทความต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

>> https://www.chatstickmarket.com/langran

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

>> https://www.chatstickmarket.com/portfolio

------------------------------------------------------------------------------------

💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)