เปลี่ยนธุรกิจโรงแรมหลังโควิด ยังไงดีให้กลับมาปังดว่าเดิม❗
เปลี่ยนธุรกิจโรงแรมหลังโควิด ยังไงดีให้กลับมาปังดว่าเดิม❗
โควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง เมื่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รูปแบบการทำธุรกิจที่ทำอยู่ก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย โดยเฉพาะกับธุรกิจโรงแรมที่พัก ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ลองมาดูกันว่าระยะเวลากว่า 7-8 เดือนที่ผ่านมาที่ต้องเผชิญหน้าอยู่กับโรคระบาดครั้งนี้ โดยที่ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะจบลงเมื่อไหร่ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และจะส่งผลต่อการเปลี่ยนไปของธุรกิจอย่างไร
🔹Self Service ถูกนำมาใช้มากขึ้น
จากมาตรการเว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย ไปถึงความพยายามในการประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดให้ได้มากที่สุด ทำให้โรงแรมหลายแห่งเริ่มมีการปรับตัว โดยพยายามนำรูปแบบการให้บริการแบบ Self Service และเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยบริหารจัดการมากขึ้น อาทิ การให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลการเข้าพักและเช็กอินได้ด้วยตนเอง โดยอาจส่งรหัสเข้าห้องพักผ่าน SMS หรืออีเมลของลูกค้า วิธีการนี้นอกจากสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า โดยสามารถทำการเข้าพักได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลารอเช็กอิน ยังทำให้โรงแรมประหยัดทรัพยากรบุคคล โดยไม่ต้องมีพนักงานคอยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
🔹ธุรกิจมีการ Lean มากขึ้น
จากความพยายามเอาตัวรอดเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ขณะเดียวกันก็มีเวลาว่างมากขึ้น ทำให้โรงแรมที่พักต่างๆ ได้ใช้เวลาเพื่อหันกลับมาทบทวนตนเอง รวมถึงวางแผนเส้นทางธุรกิจที่จะเติบโตไปต่อ หลายโรงแรมจึงได้ใช้โอกาสนี้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจของตัวเองเสียใหม่ ส่งผลให้เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีความรอบคอบเพิ่มมากขึ้น ช่วยลดสิ่งฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองลง ทำให้องค์กรมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาได้อย่างทันท่วงที
🔹เกิดการให้นิยาม Luxury รูปแบบใหม่
ด้วยรูปแบบการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีการเปิดกว้างและทางเลือกให้มากขึ้น ซึ่งเริ่มเป็นเทรนด์ขึ้นมาตั้งแต่ก่อนเกิดไวรัสโควิด-19 จะระบาดด้วยซ้ำ และกลับมองเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นหลังจากเกิดวิกฤต โดยเฉพาะการให้นิยามกับคำว่า Luxury รูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบการให้บริการที่หรูหราเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เช่น การให้บริการห้องพักที่ดีที่สุดอาจไม่จำเป็นต้องเป็นห้องที่มีบริการ Butler หรือผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่แขกผู้เข้าพักเสมอไป แต่โรงแรมที่พักสามารถสร้างประสบการณ์เข้าพักที่ดีในรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้ เช่น ปัจจุบันนี้ที่มีการนิยมเสิร์ฟ Floating Breakfast หรือเซ็ตอาหารเช้าลอยน้ำแบบส่วนตัว สำหรับห้องพักแบบพูลวิลล่า ทำให้แขกได้รับความเป็นส่วนตัวและใช้เวลาพักผ่อนเต็มที่อยู่กับห้องพักได้มากขึ้น โดยไม่ต้องรีบออกมารับประทานที่ห้องอาหารร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับที่พักโรงแรมใหญ่ๆ เท่านั้น ที่พักเล็กๆ ก็สามารถสร้างรูปแบบประสบการณ์เข้าพักที่แสนวิเศษของตัวเองขึ้นมาได้เช่นกัน
🔹ยืดหยุ่น ปรับการให้บริการห้องพักหลากหลายมากขึ้น
อีกหนึ่งเทรนด์สุดท้ายที่สามารถเห็นได้มากขึ้นหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ของโรงแรมที่พักต่างๆ ก็คือ มีการปรับรูปแบบการให้บริการและราคาที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น จากรายวัน เป็นรายสัปดาห์ และรายเดือน หรือมีการปรับพื้นที่เป็น Co-Working Space ให้นั่งทำงานเป็นรายวัน สำหรับคนที่เบื่อบรรยากาศการทำงานอยู่ที่บ้าน ต้องการสมาธิ ขณะกันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ได้เรียนรู้วิธีการปรับตัวและหารายได้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องยึดติดแต่เพียงรูปแบบเดิม และแม้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาแล้วก็ตาม แต่วิธีการดังกล่าวก็สามารถนำมาใช้ได้อยู่เหมือนเช่นเดิม ยิ่งกลับทำให้ธุรกิจมีความแข็งแรงและมั่นคงมากขึ้นด้วย
🔹ทำการตลาดโรงแรมผ่านโซเชียลมีเดีย
แสดงตัวตนบนโซเชียลมีเดียมากๆโซเชียลมีเดียเปรียบเสมือนโทรโข่งช่วยป่าวประกาศให้ผู้คนรู้ถึงธุรกิจของคุณ และทุกวันนี้ยังเป็นพื้นที่ให้ผู้คน เช่น ลูกค้า พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับผู้ประกอบการ เช่น รีวิวการเข้าพักโรงแรมที่ผ่านมา
หากบริหารโซเชียลมีเดียดีๆ โพสต์เข้ากับกระแส สม่ำเสมอ ใช้รูปแบบที่เข้ากับระบบและสถานการณ์ เช่น ภาพ คลิปวิดีโอ และมีโซเชียลมีเดียหลายช่องทาง จะเป็นประโยชน์กับโรงแรมอย่างมาก
สำหรับโรงแรมสามารถใช้โซเชียลมีเดียได้ดีในเรื่องโปรโมทที่ตั้งโรงแรม การบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และแจ้งโปรโมชั่นโรงแรม แต่ก็ควรจะผสมผสานกับเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมของคุณ
🔹เว็บไซต์โรงแรม ที่กระตุ้นการจองห้องพักตรง
เว็บไซต์แสนดีเช่นนี้ ควรมีหลักดังนี้
- ใช้ผ่านสมาร์ทโฟนได้ดี
ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเกินครึ่งเข้าอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือที่เรียกติดปากกันว่ามือถือ เว็บไซต์ที่ดีจึงควรใช้งานผ่านมือถือได้ เข้ากับมือถือ เว็บไซต์ประเภทนี้จะได้รับการออกแบบให้มี Responsive mode หรือ Responsive design
- มีจุดขาย
เว็บโรงแรมโดยทั่วไปจะแสดงรายละเอียดที่โรงแรมตัวเองมีทั้งหมดให้ผู้เข้าชมเว็บทราบ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เว็บที่สะดุดตาหรือโดดเด่นจนลูกค้าจำได้ ต้องมีคาแรคเตอร์หรือจุดขายที่ชัดเจน เช่น ความเป็นมาที่น่าสนใจของโรงแรม ภาพ คลิปวิดีโอ มาสคอต หรือดีลโปรโมชั่นที่พิเศษสุดๆ
- แนะนำผู้เข้าชมเว็บได้
เว็บโรงแรมที่ดีควรแสดงข้อมูลห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกชัดเจน และรายละเอียดเหล่านี้ควรอัพเดตตามสถานการณ์จริง ณ ปัจจุบัน
- ชัดเจนและตรงไปตรงมา
ผู้เข้าชมเว็บโรงแรมของคุณต้องทราบทันทีว่า ประโยชน์ของการจองตรงกับเว็บไซต์คืออะไร เช่น ติดต่อกับทางโรงแรมได้ทันที ได้สิทธิพิเศษอะไรจากโรงแรม หรือราคาที่ดีกว่า เป็นต้น
🔹แผนการตลาดโรงแรม
1. รู้จักโรงแรมของตัวเองและจุดยืนของตัวเองในตลาด
รงแรมมีกลุ่มโฟกัสที่ชัดเจนแล้ว ก็ต้องอย่าลืมดูว่า มีทรัพยากรเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมหรือไม่ เช่น เทคโนโลยีอย่างเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และงบประมาณ ทั้งสองอย่างนี้สำคัญ เพราะเป็นเครื่องมือในการเรียกลูกค้าเข้าโรงแรมในทุกวันนี้ การมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เฉพาะหรือกลุ่มที่แคบลงมาหน่อย จะช่วยให้โรงแรมทำการตลาดได้ตรงกว่าและก็จะได้ผลมากกว่า
2. ตั้งเป้าหมาย
- กลุ่มเป้าหมายของการทำการตลาดคือใคร?
- จุดเด่น/จุดแข็งของโรงแรมของคุณที่เหนือกว่าคู่แข่งคืออะไรบ้าง?
- คู่แข่งโดยตรงและคู่แข่งทางอ้อมของโรงแรมของคุณคือใครบ้าง?
- โรงแรมของคุณเด่นหรือเชี่ยวชาญเรื่องอะไร?
- โรงแรมของคุณมีบริการอะไรที่โดดเด่นหรือดีจนลูกค้าชื่นชอบบ้าง?
- สิ่งที่โรงแรมของคุณสามารถปรับปรุงได้คืออะไร?
- เป้าหมายการเงิน (รายได้, รายจ่าย) ของปีนี้ของโรงแรม อยู่ที่เท่าไหร่? และแผนที่จะพิชิตเป้าหมายเหล่านี้มีอะไรบ้าง?
3. เลือกกลยุทธ์การตลาดที่เข้ากับโรงแรม
กลยุทธ์การตลาดที่โรงแรมใช้ได้ มีรูปแบบที่เห็นได้อยู่ทั่วไป หรือใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเหลือเพียงแค่การเลือกใช้ให้เหมาะสม
ซึ่งก่อนจะเลือกกลยุทธ์การตลาดให้กับโรงแรม โรงแรมต้องรู้จัก SWOT ของตัวเอง SWOT นี้ย่อมาจาก Strengths (จุดแข็ง), Weaknesses (จุดอ่อน), Opportunities (ปัจจัยด้านบวกจากภายนอก) และ Threats (ปัจจัยด้านลบจากภายนอก) ข้อมูลเหล่านี้สามารถค้นหาและรวบรวมได้จากฝ่ายบริหารและผู้ร่วมงานทุกคน
ข้อมูล SWOT จะช่วยให้โรงแรมรู้ว่า กลยุทธ์การตลาดที่จะเลือกนี้เหมาะสมกับโรงแรมหรือไม่ เข้ากับแผนธุรกิจโดยรวมของโรงแรมหรือไม่ ทั้งในเรื่องผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนไป (ROI) และปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง มากแค่ไหน และโรงแรมจะรับได้หรือไม่
4. ลงมือทำตามแผนที่วางไว้
ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์การตลาดอะไรก็ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โรงแรมต้องทำกลยุทธ์ออกมาเป็นแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนและมีระยะเวลากำหนดด้วย
5. ประเมินผลลัพธ์ทางการเงิน
การประเมินผลลัพธ์ทางการเงิน เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำตามแผนการตลาด ที่จะบอกโรงแรมว่า แผนที่ทำประสบความสำเร็จหรือมีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น การประเมินสามารถทำได้ทั้งแบบประเมินแต่ละขั้นตอนและการประเมินแผนรวบยอดทั้งหมด
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Comments