top of page

How To เริ่มต้นเปิดร้านเครื่องสำอางให้ปัง✨


How To เริ่มต้นเปิดร้านเครื่องสำอางให้ปัง✨  การเปิดธุรกิจสำหรับขายเครื่องสำอางเป็นที่นิยมและมีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่เริ่มที่จะรักสวยรักงามมากขึ้นและมีราคาที่ไม่แพงด้วย เอาเครื่องสำอางบางตัว ก็ไม่ใช่เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันหรือไม่ใช่เป็นแบรนด์ดังแต่คุณภาพก็ดีเยี่ยม ไม่แพ้กับร้านเครื่องสำอางแบรนด์ดังทั่วไปในทีเดียว ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดว่ามีร้าน ขายเครื่องสำอางหรือร้านต่างๆ เช่น ร้านคอสเมติกส์ อะไรทำนองนี้มีอยู่เต็มไปหมด และสำหรับผู้หญิงที่ชอบเสริมสวยอยู่แล้วพวกเขาก็อยากที่จะแชร์ประสบการณ์ในการเป็นช่างแต่งหน้าหรือเปิดร้านขายเครื่องสำอางเพราะเป็นอาชีพที่เรารัก  ดังนั้น ในบทความนี้เราจะรู้จักอาชีพการเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปมากขึ้นแล้วเราจะรู้ว่าการเปิดร้านแบบนั้นต้องมีการเริ่มต้นอย่างไร ให้เรามาเริ่มกันที่การเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปเริ่มต้นมาจากอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้…  ✨การเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปเริ่มต้นจากอะไรบ้าง? จากการสำรวจมาในการเปิดร้าน หรือเปิดธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านไหนก็ตามก็จะต้องมีการวางแผนอย่างล่วงหน้าอย่างดี ดังนั้น บทความนี้จะให้เรารู้มากขึ้น ในการเริ่มต้นที่ดีมีอยู่ 7 จุดด้วยกัน ที่เราสามารถนำมาปรับปรุงและวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปดังต่อไปนี้…  1. การวางแผนเกี่ยวกับเงินทุนต่างๆ ปกติแล้วเครื่องสำอางทุกอย่างก็จะมีทั้งแง่ที่ดีในแง่ไม่ดีก่อนที่คุณจะเริ่มทำ ธุรกิจ เกี่ยวกับการเปิดร้าน ขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปต่างๆ นั้นคุณเองก็จะต้องคิดถึงเรื่องนี้เป็นอันดับแรกก็คือเรื่องของเงินทุนที่ควรจะนำมาเปิดธุรกิจด้านเอง เพราะถ้าคุณอยากเปิดธุรกิจคุณจะต้องรู้ว่าคุณจำเป็นต้องมีเงินสำหรับ ร้านทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น แผงเพื่อที่จะโชว์สินค้าของคุณหรือคำนวณทุกอย่างที่อาจทำให้คุณ ต้องคิดดูว่าจะมีประโยชน์มากกว่าหรือเสียประโยชน์มากกว่าคุณจะต้องคิดถึงเงินทุนหรือเงินสำรองและมีเงินออมอยู่บ้างเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด เพื่อที่จะทำให้เราหมุนเวียนเงินได้อย่างดี  2. การมองหาทำเลที่ดีก่อนเปิดธุรกิจ การเปิดร้านขายเครื่องสำอางมืออาชีพก่อนอื่นคุณต้องมองหาทำเลที่เหมาะสมและทำเลนั้นจะต้องเป็นที่ที่ผู้คนสังเกตเห็นได้ง่ายซึ่ง จะต้องเป็นสถานที่ที่ใกล้ๆ กับจุดเด่นบางอย่างทำให้ผู้คนสังเกตเห็นได้ง่าย อาจจะอยู่ใกล้ๆ ตลาดหรือ ถนนที่มีคนผ่านไปมาอยู่สม่ำเสมอเพื่อจะเห็นสินค้าและร้านค้าของคุณได้ง่ายขึ้นและเข้ามาใช้บริการ  3. การมองหาหรือเลือกเครื่องสำอางมาวางขาย พูดถึงเรื่อง การที่เราจะมองหรือเรื่องหาสินค้าที่จะมานำขายเราควรที่จะมองหา สินค้าที่ตรงกับ ความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่มากที่สุดวาดหลุมส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้สินค้าแบบไหนและมีแปลงยี่ห้ออะไรบ้าง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการที่เราตามเทรนของยุคปัจจุบันให้ทัน เพราะแต่ละเดือนแต่ละปี หลายคนก็จะนิยมกันแตกต่างกันไปดังนั้นสินค้าในร้านค้าของคุณควรที่จะเอาใจใส่ปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับลูกค้า และความคิดถึงสินค้าที่ มีคุณภาพอีกด้วยไม่เพียงแต่เฉพาะชื่อแบรนด์เท่านั้น  4. การมองหาสินค้าที่มีการรับประกัน เราควรที่จะให้คุณภาพหรือมาตรฐานทางสินค้า มาก่อนเพราะว่าสินค้าต่างๆ นั้นก็จะมีการรับประกันสินค้าของคุณภาพที่ไม่หมดอายุหรือหมดสภาพได้ง่ายซึ่งการรับประกันแบบนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความเชื่อถือกับสินค้าของเราที่เรานำขายอยู่ และไม่เพียงเท่านั้นเราควรที่จะรับประกันสินค้าด้วยหากลูกค้าซื้อไปแล้ว มีตำหนิหรืออะไรขึ้นมาเราก็ควรที่จะ คิดถึงใจของลูกค้าและมีบริการระหว่างหลังขายและการขายอีกด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเมื่อซื้อของของเรา ดังนั้น เราควรใส่ใจลูกค้าคล้ายๆ กับว่าเราเป็นลูกค้าเราจะรู้สึกอย่างไรควรเอาใจเขามาใส่ใจเราลองคิดดูว่าถ้าเป็นคุณ คุณอยากให้สินค้าเป็นแบบไหนและอยากได้สินค้าแบบไหนซึ่งเมื่อคุณแสดงความสนใจกับลูกค้าเป็นส่วนตัวแบบนี้ก็จะทำให้ลูกค้าติดใจและมาซื้อขายกับร้านของคุณเป็นประจำอย่างแน่นอนซึ่งนั่นส่งผลให้ธุรกิจของคุณมั่นคงและก็เติบโตได้  5. การส่งคืนสินค้า ปัจจุบันนี้มีการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ด้วยซึ่งถ้าสมมุติว่าร้านของคุณมีการส่งสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ด้วยคนก็จะต้องมีทางเลือกให้กับลูกค้าถ้าลูกค้าไม่ได้ของตามที่ตัวเองต้องการก็สามารถมีบริการส่งคืนสินค้าได้ซึ่งก็แล้วแต่ว่าทาง ร้านค้าของคุณนั้น ได้มีโปรโมชั่นแบบไหนกับลูกค้าตัวอย่างเช่นลูกค้าซื้อครีมโลชั่นตัวหนึ่งราคา 200 บาทรวมค่าส่ง 50 บาท แต่พอลูกค้าได้ของมาแล้วอาจจะไม่พอใจกับสินค้าหรือสั่งสินค้ามาผิด คุณก็สามารถบอกลูกค้าว่าสามารถส่งสินค้ากลับคืนมาได้ และให้ลูกค้าสั่งสินค้าอีกทีว่าต้องการแบบไหน แล้วจะดีไปมากกว่านั้นถ้าคุณฟรีค่าจัดส่งให้ลูกค้า เพื่อเป็นการรักษาลูกค้าไว้ในระยะยาว  6. การให้บริการ เรื่องนี้นับว่าสำคัญมากกับคนที่เป็นเจ้าของร้านควรเลือก พนักงานที่สามารถบริการการขายได้เป็นอย่างดีซึ่งนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะว่าการเอาใจใส่ของพนักงานกับลูกค้า จะเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้าในการเลือกสินค้ามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการยิ้มให้ลูกค้าและสามารถตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างมีเหตุมีผลและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการบริการแบบนี้จะทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกอายที่จะถามคุณเกี่ยวกับสินค้าหรือเครื่องสำอางต่างๆ ที่อยู่ในร้าน  7. การมีโปรโมชั่นดีๆ และบริการหลังการขาย ปกติแล้วลูกค้าก็จะชอบการจัด โปรโมชั่นที่ลดแลกแจกแถมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านของคุณมากขึ้นและยังทำให้ยอดขายของคุณ เพิ่มขึ้น แล้วลูกค้าจะชอบมากถ้าพวกเขารู้สึกว่าเขาได้กำไรคืนบ้างจากujการซื้อสินค้าของคุณในทุกๆ ปี ซึ่งคุณอาจจะลองจัดโปรโมชั่นเช่น ซื้อครบ 500 บาทขึ้นไปแถมฟรีครีมกันแดดขนาดเล็ก หรือมีส่วนลดให้กับลูกค้าเป็นต้น หรืออาจจะมีการขายแบบออนไลน์ซึ่งมีบริการที่สามารถจัดส่งฟรีได้ โปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ก็จะทำให้ร้านค้าของคุณมีลูกค้า ที่ดีและคุณเองก็ได้รับประโยชน์ด้วยดังนั้นคุณควรลองที่จะวางแผนดูว่าจะจัดการอย่างไรในเรื่องโปรโมชั่นดี อาจจะต้องคิดหน้าคิดหลังหน่อยว่าโปรโมชั่นนั้นจะส่งผลดีหรือผลเสียมากน้อยกว่ากันอย่าลืมว่าคุณเป็นคนเปิดธุรกิจและ การเปิดธุรกิจก็ต้องการกำไรซึ่งอย่าให้ลูกค้ามากจนเกินไปละ จนไม่มีกำไรเลย  ✨การจะเริ่มทำธุรกิจร้านขายเครื่องสำอางต้องคำนึงถึงสิ่งดังต่อไปนี้ 1.ต้องเริ่มต้นจากการมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางและเป็นคนรักสวยรักงามก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะปัจจุบันนี้เครื่องสำอางมีอยู่หลายประเภท หลายแบรนด์ และหลายระดับ มีทั้งอย่างที่เป็นการทำจากสารสังเคราะห์ อย่างที่เป็นสมุนไพร คนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องพอตอบคำถามพื้นฐานให้กับลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และคำถามพื้นฐานนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และจะนำพาลูกค้ามาเป็นลูกค้าประจำในโอกาสต่อไป  2.ต้องมองทำเลออก ใช่ว่าทุกที่จะขายเครื่องสำอางได้ สถานที่ที่จะขายเครื่องสำอางได้ต้องเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่นใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อยู่ในอำเภอ อยู่หน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมลคนเดินไปมา คนต้องพลุกพล่านเพียงพอ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น  3.เงินลงทุน สิ่งแรกที่ต้องคิดคือเงินลงทุนในการตกแต่งร้าน ซื้อชั้นอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และสไตล์ของการตกแต่ง เงินทุนอีกก้อนหนึ่งคือเงินเพื่อไปซื้อสินค้า กุญแจความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านเครื่องสำอางคือจะต้องมีสินค้าให้หลากหลายและดูแน่นร้าน ดังนั้นจึงต้องใช้เงินในการซื้อสินค้ามากพอสมควรให้เต็มร้าน จากประสบการณ์ผู้รู้บอกว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท แต่ไม่ควรมีสต๊อกให้มาก เพราะจะทำให้เงินจม  4.การเลือกสินค้า ตรงนี้ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มนิยมสินค้าจากต่างประเทศ แบรนด์หรือยี่ห้อไหนที่เขานิยมเราก็ต้องตามเทรนด์ให้ทัน เพราะสินค้าเครื่องสำอางมีส่วนหนึ่งที่เขาใช้เป็นประจำยังไงก็ไม่เปลี่ยนแบรนด์ แต่ก็มีบางส่วนที่เขาเปลี่ยนแบรนด์ไปตามกระแส พวกนี้เราต้องตามให้ทัน ตลาดสำเพ็งเป็นแหล่งสำคัญที่เราควรหาเวลาไปเดินบ่อยๆ เพราะที่นั่นจะเป็นตัวบอกเทรนด์ให้เราได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต  5.มาตรฐานสินค้า การที่ร้านค้าจะอยู่รอดและเติบโตได้ สินค้าต้องมีมาตรฐาน และกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง นับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการลอกเลียนแบบได้ง่ายที่สุด ดังนั้นเวลาเราซื้อจากแหล่งผลิต เราต้องแน่ใจ มีการรับประกันคุณภาพ สินค้าไม่บุบสลาย ไม่หมดอายุ ในส่วนของร้านค้าเองก็ต้องมีการรับประกันคุณภาพกับลูกค้าด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการระหว่างการขายและหลังการขายและที่สำคัญที่สุด เมื่อเราสามารถสร้างร้านของเราได้มั่นคง เติบโตได้ระยะหนึ่ง จะมีเซลล์จากบริษัทผู้ผลิตมาติดต่อเราด้วย ก็จะทำให้สินค้าเราหลากหลายมากขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพ  6.การบริการ เนื่องจากร้านค้าเรามีหน้าร้าน จึงมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาหาเราอยู่ตลอดเวลา เราหรือพนักงานขายของเราต้องมีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถตอบคำถามต่างๆ ให้ลูกค้าได้อย่างกระจ่าง สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ หรือหากเรามีระบบการขายออนไลน์ด้วย ก็ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าบนออนไลน์อย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยนานไป การขายบนออนไลน์จะไม่ประสบความสำเร็จ  7.การทำการตลาดและโปรโมชั่น เนื่องจากยุคนี้ร้านขายเครื่องสำอางเกิดขึ้นมาก และยังไม่นับรวมถึงการทำตลาดเครื่องสำอางออนไลน์ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ทำให้ตลาดเครื่องสำอางแข่งขันกันดุมาก ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ทางร้านจะต้องคิดหากลยุทธ์การตลาด การโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม มาเล่นเป็นระยะบ้าง แต่การเล่นนี้ต้องมีเป้าหมาย เช่นเล่นเพื่อแนะนำสินค้าใหม่เข้าร้าน เล่นเพื่อล้างสต๊อกสินค้าเดิม ไม่ให้อยู่ค้างร้านจนนานจะเป็นปัญหาสินค้าหมดอายุ เป็นต้น  8.อันนี้เป็นข้อห้ามที่ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด คือนำสินค้าที่ไม่ผ่าน อย. มาขายในร้าน นอกเหนือจากไม่ได้มาตรฐานแล้ว เมื่อ อย.จับได้ ยังผิดกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ยิ่งหากมีการแนะนำสินค้าลงไปบนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือโซเชียลต่างๆ หาก อย.จับได้ จะถูกลงโทษทั้งในแง่ปรับและจำคุก  ✨มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างของเครื่องสำอางที่เราควรรู้? ข้อดี คือ คุณสามารถนำสินค้าต่างๆ เหล่านั้นนำมาแปรรูปได้เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เช่นครีมทาผิวต่างๆ หรือรวมไปถึงโลชั่นด้วยซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ ของสินค้าและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่สามารถนำมาแปรรูปได้และยังสามารถ นำสินค้าหล่อนั้น มาดัดแปลงเพื่อที่จะลดต้นทุนในการสั่งสินค้าเพิ่มเติมหรืออะไรต่างๆ ทำนองนี้  ข้อเสีย คือ ถ้าคุณนำสินค้ามาแปรรูปอาจจะส่งผลเสียได้ก็คือถ้าผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นไม่มีการพิมพ์เลขจดแจ้งบรรจุภัณฑ์ก่อนหรือไม่ได้ผ่านการตรวจสอบผ่านทางสินค้าที่มี อย.ก็จะผิดกฎหมายได้ซึ่งควรจะต้องใส่ใจในเรื่องนี้ด้วยถ้าคุณนำสินค้ามาแปรรูป  ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >>https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran  🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

How To เริ่มต้นเปิดร้านเครื่องสำอางให้ปัง✨


การเปิดธุรกิจสำหรับขายเครื่องสำอางเป็นที่นิยมและมีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่เริ่มที่จะรักสวยรักงามมากขึ้นและมีราคาที่ไม่แพงด้วย เอาเครื่องสำอางบางตัว ก็ไม่ใช่เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันหรือไม่ใช่เป็นแบรนด์ดังแต่คุณภาพก็ดีเยี่ยม ไม่แพ้กับร้านเครื่องสำอางแบรนด์ดังทั่วไปในทีเดียว ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดว่ามีร้าน ขายเครื่องสำอางหรือร้านต่างๆ เช่น ร้านคอสเมติกส์ อะไรทำนองนี้มีอยู่เต็มไปหมด และสำหรับผู้หญิงที่ชอบเสริมสวยอยู่แล้วพวกเขาก็อยากที่จะแชร์ประสบการณ์ในการเป็นช่างแต่งหน้าหรือเปิดร้านขายเครื่องสำอางเพราะเป็นอาชีพที่เรารัก


ดังนั้น ในบทความนี้เราจะรู้จักอาชีพการเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปมากขึ้นแล้วเราจะรู้ว่าการเปิดร้านแบบนั้นต้องมีการเริ่มต้นอย่างไร ให้เรามาเริ่มกันที่การเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปเริ่มต้นมาจากอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้…


✨การเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปเริ่มต้นจากอะไรบ้าง?

จากการสำรวจมาในการเปิดร้าน หรือเปิดธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านไหนก็ตามก็จะต้องมีการวางแผนอย่างล่วงหน้าอย่างดี ดังนั้น บทความนี้จะให้เรารู้มากขึ้น ในการเริ่มต้นที่ดีมีอยู่ 7 จุดด้วยกัน ที่เราสามารถนำมาปรับปรุงและวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปดังต่อไปนี้…


1. การวางแผนเกี่ยวกับเงินทุนต่างๆ

ปกติแล้วเครื่องสำอางทุกอย่างก็จะมีทั้งแง่ที่ดีในแง่ไม่ดีก่อนที่คุณจะเริ่มทำ ธุรกิจ เกี่ยวกับการเปิดร้าน ขายเครื่องสำอางหรือร้านบิวตี้ช็อปต่างๆ นั้นคุณเองก็จะต้องคิดถึงเรื่องนี้เป็นอันดับแรกก็คือเรื่องของเงินทุนที่ควรจะนำมาเปิดธุรกิจด้านเอง เพราะถ้าคุณอยากเปิดธุรกิจคุณจะต้องรู้ว่าคุณจำเป็นต้องมีเงินสำหรับ ร้านทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น แผงเพื่อที่จะโชว์สินค้าของคุณหรือคำนวณทุกอย่างที่อาจทำให้คุณ ต้องคิดดูว่าจะมีประโยชน์มากกว่าหรือเสียประโยชน์มากกว่าคุณจะต้องคิดถึงเงินทุนหรือเงินสำรองและมีเงินออมอยู่บ้างเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด เพื่อที่จะทำให้เราหมุนเวียนเงินได้อย่างดี


2. การมองหาทำเลที่ดีก่อนเปิดธุรกิจ

การเปิดร้านขายเครื่องสำอางมืออาชีพก่อนอื่นคุณต้องมองหาทำเลที่เหมาะสมและทำเลนั้นจะต้องเป็นที่ที่ผู้คนสังเกตเห็นได้ง่ายซึ่ง จะต้องเป็นสถานที่ที่ใกล้ๆ กับจุดเด่นบางอย่างทำให้ผู้คนสังเกตเห็นได้ง่าย อาจจะอยู่ใกล้ๆ ตลาดหรือ ถนนที่มีคนผ่านไปมาอยู่สม่ำเสมอเพื่อจะเห็นสินค้าและร้านค้าของคุณได้ง่ายขึ้นและเข้ามาใช้บริการ


3. การมองหาหรือเลือกเครื่องสำอางมาวางขาย

พูดถึงเรื่อง การที่เราจะมองหรือเรื่องหาสินค้าที่จะมานำขายเราควรที่จะมองหา สินค้าที่ตรงกับ ความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่มากที่สุดวาดหลุมส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้สินค้าแบบไหนและมีแปลงยี่ห้ออะไรบ้าง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการที่เราตามเทรนของยุคปัจจุบันให้ทัน เพราะแต่ละเดือนแต่ละปี หลายคนก็จะนิยมกันแตกต่างกันไปดังนั้นสินค้าในร้านค้าของคุณควรที่จะเอาใจใส่ปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับลูกค้า และความคิดถึงสินค้าที่ มีคุณภาพอีกด้วยไม่เพียงแต่เฉพาะชื่อแบรนด์เท่านั้น


4. การมองหาสินค้าที่มีการรับประกัน

เราควรที่จะให้คุณภาพหรือมาตรฐานทางสินค้า มาก่อนเพราะว่าสินค้าต่างๆ นั้นก็จะมีการรับประกันสินค้าของคุณภาพที่ไม่หมดอายุหรือหมดสภาพได้ง่ายซึ่งการรับประกันแบบนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความเชื่อถือกับสินค้าของเราที่เรานำขายอยู่ และไม่เพียงเท่านั้นเราควรที่จะรับประกันสินค้าด้วยหากลูกค้าซื้อไปแล้ว มีตำหนิหรืออะไรขึ้นมาเราก็ควรที่จะ คิดถึงใจของลูกค้าและมีบริการระหว่างหลังขายและการขายอีกด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเมื่อซื้อของของเรา ดังนั้น เราควรใส่ใจลูกค้าคล้ายๆ กับว่าเราเป็นลูกค้าเราจะรู้สึกอย่างไรควรเอาใจเขามาใส่ใจเราลองคิดดูว่าถ้าเป็นคุณ คุณอยากให้สินค้าเป็นแบบไหนและอยากได้สินค้าแบบไหนซึ่งเมื่อคุณแสดงความสนใจกับลูกค้าเป็นส่วนตัวแบบนี้ก็จะทำให้ลูกค้าติดใจและมาซื้อขายกับร้านของคุณเป็นประจำอย่างแน่นอนซึ่งนั่นส่งผลให้ธุรกิจของคุณมั่นคงและก็เติบโตได้


5. การส่งคืนสินค้า

ปัจจุบันนี้มีการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ด้วยซึ่งถ้าสมมุติว่าร้านของคุณมีการส่งสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ด้วยคนก็จะต้องมีทางเลือกให้กับลูกค้าถ้าลูกค้าไม่ได้ของตามที่ตัวเองต้องการก็สามารถมีบริการส่งคืนสินค้าได้ซึ่งก็แล้วแต่ว่าทาง ร้านค้าของคุณนั้น ได้มีโปรโมชั่นแบบไหนกับลูกค้าตัวอย่างเช่นลูกค้าซื้อครีมโลชั่นตัวหนึ่งราคา 200 บาทรวมค่าส่ง 50 บาท แต่พอลูกค้าได้ของมาแล้วอาจจะไม่พอใจกับสินค้าหรือสั่งสินค้ามาผิด คุณก็สามารถบอกลูกค้าว่าสามารถส่งสินค้ากลับคืนมาได้ และให้ลูกค้าสั่งสินค้าอีกทีว่าต้องการแบบไหน แล้วจะดีไปมากกว่านั้นถ้าคุณฟรีค่าจัดส่งให้ลูกค้า เพื่อเป็นการรักษาลูกค้าไว้ในระยะยาว


6. การให้บริการ

เรื่องนี้นับว่าสำคัญมากกับคนที่เป็นเจ้าของร้านควรเลือก พนักงานที่สามารถบริการการขายได้เป็นอย่างดีซึ่งนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะว่าการเอาใจใส่ของพนักงานกับลูกค้า จะเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้าในการเลือกสินค้ามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการยิ้มให้ลูกค้าและสามารถตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างมีเหตุมีผลและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการบริการแบบนี้จะทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกอายที่จะถามคุณเกี่ยวกับสินค้าหรือเครื่องสำอางต่างๆ ที่อยู่ในร้าน


7. การมีโปรโมชั่นดีๆ และบริการหลังการขาย

ปกติแล้วลูกค้าก็จะชอบการจัด โปรโมชั่นที่ลดแลกแจกแถมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านของคุณมากขึ้นและยังทำให้ยอดขายของคุณ เพิ่มขึ้น แล้วลูกค้าจะชอบมากถ้าพวกเขารู้สึกว่าเขาได้กำไรคืนบ้างจากujการซื้อสินค้าของคุณในทุกๆ ปี ซึ่งคุณอาจจะลองจัดโปรโมชั่นเช่น ซื้อครบ 500 บาทขึ้นไปแถมฟรีครีมกันแดดขนาดเล็ก หรือมีส่วนลดให้กับลูกค้าเป็นต้น หรืออาจจะมีการขายแบบออนไลน์ซึ่งมีบริการที่สามารถจัดส่งฟรีได้ โปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ก็จะทำให้ร้านค้าของคุณมีลูกค้า ที่ดีและคุณเองก็ได้รับประโยชน์ด้วยดังนั้นคุณควรลองที่จะวางแผนดูว่าจะจัดการอย่างไรในเรื่องโปรโมชั่นดี อาจจะต้องคิดหน้าคิดหลังหน่อยว่าโปรโมชั่นนั้นจะส่งผลดีหรือผลเสียมากน้อยกว่ากันอย่าลืมว่าคุณเป็นคนเปิดธุรกิจและ การเปิดธุรกิจก็ต้องการกำไรซึ่งอย่าให้ลูกค้ามากจนเกินไปละ จนไม่มีกำไรเลย


✨การจะเริ่มทำธุรกิจร้านขายเครื่องสำอางต้องคำนึงถึงสิ่งดังต่อไปนี้

1.ต้องเริ่มต้นจากการมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางและเป็นคนรักสวยรักงามก่อน

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะปัจจุบันนี้เครื่องสำอางมีอยู่หลายประเภท หลายแบรนด์ และหลายระดับ มีทั้งอย่างที่เป็นการทำจากสารสังเคราะห์ อย่างที่เป็นสมุนไพร คนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องพอตอบคำถามพื้นฐานให้กับลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และคำถามพื้นฐานนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และจะนำพาลูกค้ามาเป็นลูกค้าประจำในโอกาสต่อไป


2.ต้องมองทำเลออก

ใช่ว่าทุกที่จะขายเครื่องสำอางได้ สถานที่ที่จะขายเครื่องสำอางได้ต้องเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่นใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อยู่ในอำเภอ อยู่หน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมลคนเดินไปมา คนต้องพลุกพล่านเพียงพอ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น


3.เงินลงทุน

สิ่งแรกที่ต้องคิดคือเงินลงทุนในการตกแต่งร้าน ซื้อชั้นอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และสไตล์ของการตกแต่ง เงินทุนอีกก้อนหนึ่งคือเงินเพื่อไปซื้อสินค้า กุญแจความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านเครื่องสำอางคือจะต้องมีสินค้าให้หลากหลายและดูแน่นร้าน ดังนั้นจึงต้องใช้เงินในการซื้อสินค้ามากพอสมควรให้เต็มร้าน จากประสบการณ์ผู้รู้บอกว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท แต่ไม่ควรมีสต๊อกให้มาก เพราะจะทำให้เงินจม


4.การเลือกสินค้า

ตรงนี้ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มนิยมสินค้าจากต่างประเทศ แบรนด์หรือยี่ห้อไหนที่เขานิยมเราก็ต้องตามเทรนด์ให้ทัน เพราะสินค้าเครื่องสำอางมีส่วนหนึ่งที่เขาใช้เป็นประจำยังไงก็ไม่เปลี่ยนแบรนด์ แต่ก็มีบางส่วนที่เขาเปลี่ยนแบรนด์ไปตามกระแส พวกนี้เราต้องตามให้ทัน ตลาดสำเพ็งเป็นแหล่งสำคัญที่เราควรหาเวลาไปเดินบ่อยๆ เพราะที่นั่นจะเป็นตัวบอกเทรนด์ให้เราได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต


5.มาตรฐานสินค้า

การที่ร้านค้าจะอยู่รอดและเติบโตได้ สินค้าต้องมีมาตรฐาน และกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง นับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการลอกเลียนแบบได้ง่ายที่สุด ดังนั้นเวลาเราซื้อจากแหล่งผลิต เราต้องแน่ใจ มีการรับประกันคุณภาพ สินค้าไม่บุบสลาย ไม่หมดอายุ ในส่วนของร้านค้าเองก็ต้องมีการรับประกันคุณภาพกับลูกค้าด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการระหว่างการขายและหลังการขายและที่สำคัญที่สุด เมื่อเราสามารถสร้างร้านของเราได้มั่นคง เติบโตได้ระยะหนึ่ง จะมีเซลล์จากบริษัทผู้ผลิตมาติดต่อเราด้วย ก็จะทำให้สินค้าเราหลากหลายมากขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพ


6.การบริการ

เนื่องจากร้านค้าเรามีหน้าร้าน จึงมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาหาเราอยู่ตลอดเวลา เราหรือพนักงานขายของเราต้องมีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถตอบคำถามต่างๆ ให้ลูกค้าได้อย่างกระจ่าง สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ หรือหากเรามีระบบการขายออนไลน์ด้วย ก็ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าบนออนไลน์อย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยนานไป การขายบนออนไลน์จะไม่ประสบความสำเร็จ


7.การทำการตลาดและโปรโมชั่น

เนื่องจากยุคนี้ร้านขายเครื่องสำอางเกิดขึ้นมาก และยังไม่นับรวมถึงการทำตลาดเครื่องสำอางออนไลน์ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ทำให้ตลาดเครื่องสำอางแข่งขันกันดุมาก ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ทางร้านจะต้องคิดหากลยุทธ์การตลาด การโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม มาเล่นเป็นระยะบ้าง แต่การเล่นนี้ต้องมีเป้าหมาย เช่นเล่นเพื่อแนะนำสินค้าใหม่เข้าร้าน เล่นเพื่อล้างสต๊อกสินค้าเดิม ไม่ให้อยู่ค้างร้านจนนานจะเป็นปัญหาสินค้าหมดอายุ เป็นต้น


8.อันนี้เป็นข้อห้ามที่ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด

คือนำสินค้าที่ไม่ผ่าน อย. มาขายในร้าน นอกเหนือจากไม่ได้มาตรฐานแล้ว เมื่อ อย.จับได้ ยังผิดกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ยิ่งหากมีการแนะนำสินค้าลงไปบนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือโซเชียลต่างๆ หาก อย.จับได้ จะถูกลงโทษทั้งในแง่ปรับและจำคุก


✨มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างของเครื่องสำอางที่เราควรรู้?

ข้อดี คือ คุณสามารถนำสินค้าต่างๆ เหล่านั้นนำมาแปรรูปได้เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เช่นครีมทาผิวต่างๆ หรือรวมไปถึงโลชั่นด้วยซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ ของสินค้าและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่สามารถนำมาแปรรูปได้และยังสามารถ นำสินค้าหล่อนั้น มาดัดแปลงเพื่อที่จะลดต้นทุนในการสั่งสินค้าเพิ่มเติมหรืออะไรต่างๆ ทำนองนี้


ข้อเสีย คือ ถ้าคุณนำสินค้ามาแปรรูปอาจจะส่งผลเสียได้ก็คือถ้าผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นไม่มีการพิมพ์เลขจดแจ้งบรรจุภัณฑ์ก่อนหรือไม่ได้ผ่านการตรวจสอบผ่านทางสินค้าที่มี อย.ก็จะผิดกฎหมายได้ซึ่งควรจะต้องใส่ใจในเรื่องนี้ด้วยถ้าคุณนำสินค้ามาแปรรูป


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 2,006 ครั้ง

Comments


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page