แนะนำวิธีดูกราฟ Bitkub

แนะนำวิธีดูกราฟ Bitkub
บทความนี้มาเพื่อเอาใจทั้งนักเทรดมือใหม่และมือโปรโดยเฉพาะเพราะเราจะมาพูดถึงในหัวข้อวิธีดูกราฟของBitkub แน่นอนว่าเราไม่สามารถรู้เลยว่าราคาในการเทรดนั้นจะมีทิศทางอย่างไร แล้วยิ่งหากดูไม่เป็นแล้วด้วยก็จะมีโอกาสที่จะไปสู่การติดดอย ฟังแล้วดูน่ากลัวใช่ไหมละดังนี้เรามาดูวิธีดูกราฟ Bitkub กันเลย
แต่สิ่งที่เราต้องทำความรู้จักเป็นอันดับแรกเลยก็คือ Indicator ที่จะมาเป็นตัวช่วยในการดูกราฟหน้าที่ของ Indicator หลักๆ ก็คือคอยบ่งชี์ทิศทางของราคาที่สามารถเป็นไปได้ โดยวิธีนี้เรียกว่าการวิเคราsNะปัจจัยทางเทคนิค หรือ Technical Analysis จะแตกต่างจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน หรือ Fundamental Analysis ในแอปพลิเคชันของ Bitkub นั้นมีตัว Indicator อยู่ด้วยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปเพิ่มด้วยตนเองได้เลย
- โทรศัพท์
เปิดแอปพลิเคชันแล้วที่ Market แล้วให้เลือกเหรียญ ต่อมากดเครื่องหมายกราฟ ให้ปัดขวาที่แถบเมนูด้านบนกราฟเล็กน้อย แล้วกดที่ Indicator เพื่อกดเลือก Indicaterตัวที่อยากเพิ่ม
- คอมพิวเตอร์
เมื่อเข้าแอปพลิเคชันเรียบร้อยให้ไปที่ ราคาตลาด เลือกเหรียญ แล้วกดที่ Indicator เพื่อกดเลือก Indicaterตัวที่อยากเพิ่ม
Indicator พื้นฐาน
- MA หรือ Moving Average
คือเส้นเฉลี่ยเคลื่อนไหว เป็นขั้นแรกในการวิเคราะห์ ตัว MA นั้นสามารถใช้วิเคราะห์ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
วิธีดู
การดูนั้นสามารถดูได้แบบ 1 เส้นและมากกว่านั้นขึ้นไป Bullish Crossover หรือ สัญญาณขาขึ้น = เส้น MA ระยะสั้นอยู่สูงกว่าเส้น MA ระยะยาว ในการเคลื่อนไหวตัวไปตัดกัน
Bearish Crossover หรือ สัญญาณขาลง = เส้น MA ระยะสั้นอยู่ต่ำกว่าเส้น MA ระยะยาว ในการเคลื่อนไหวตัวไปตัดกัน แต่ก็ยังมีประเภทย่อยไปอีกด้วยซึ่งเราจะไม่พูดถึงในบทความนี้
- RSI หรือ Relative strength index
เป็น Indicater ที่อยู่ในประเภท Momentum Oscilator ใช้ดูสภาวะของราคาที่ตลาดกำลังเผชิญอยู่ มี 2 แบบคือ ภาวะซื้อมากเกิน (overbought) และภาวะขายมากเกิน (over sold)
วิธีการดู
ภาวะซื้อมากเกิน (overbought) = เส้น RSI เคลื่อนไหวอยู่สูงกว่า 70 จุด
ภาวะขายมากเกิน (over sold) = เส้น RSI เคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่า 30 จุด
- MACD หรือ Moving average convergence divergence
เนื่องจากเป็น Indicators ที่มีการเปรียบเทียบเส้นค่าเฉลี่ย EMa 2 เส้นจึงทำให้วิเคราะห์ราคาและแรงแกว่งตัวของราคาได้ มีสามเส้นที่ใช้วิเคราะห์ได้แก่
เส้นสีน้ำเงิน (MACD LINE) เป็นเส้นที่ใช้เปรียบเทียบความห่างเฉลี่ยของเส้น EMA 12 และ EMA 26 วัน
เส้นสีแดง (Signal Line) เป็นเส้นที่ใช้วัดแนวโน้มราคาและดูสัญญาณเข้าซื้อหรือขาย
แท่งสีเทา (Histogram) เป็นเส้นที่ใช้เทียบความแตกต่างของ 2 เส้นก่อนหน้า
วิธีการดู
การดูจะใช้เส้นสีน้ำเงิน(MACD LINE) เป็นหลักหากเส้นนี้อยู่ต่ำกว่าเส้นสีแดง(Signal Line) แสดงว่าอยู่ในภาวะขาลงควรทำการขาย แต่ถ้าเส้นสีน้ำเงิน(MACD LINE) อยู่สูงกว่าเส้นสีแดง(Signal Line) จะอยู่ในภาวะขาขึ้นควรที่จะซื้อ และการดูแท่งสีเทา (Histogram) คือหากมีทิศทางไปทางไหนก็แสดงว่าราคามีแรงแกว่าไปตามทิศทางนั้น
- Ichikomu หรือที่มีชื่อเต็มว่า Ichikomu Cloud
เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลได้ว่า มองแค่แวบแรกก็เข้าใจ ดังนั้นจุดเด่นจึงเป็นไปตามชื่อ คือเป็น Indicator ที่สามารถเข้าใจทิศทางของราคาได้เลยจากการดู
วิธีการดู
จะดูได้จากบริเวณที่ทึบที่มีลักษณะคล้ายก้อนเมฆ ดูได้ดังนี้
ราคามีทิศทางขาลง = ราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าก้อนเมฆ
ราคาทิศทางขาขึ้น = ราคามีการเคลื่อนไหวอยู่สูงกว่าก้อนเมฆ
ราคาอยู่ในภาวะไร้ทิศทางหรือกำลังมีการเปลี่ยนทิศทาง = ราคาอยู่ระหว่างก้อนเมฆ
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Comments