เทคนิคตั้งสโลแกนให้ปัง❗สร้างความแตกต่างให้ธุรกิจคุณ

เทคนิคตั้งสโลแกนให้ปัง❗สร้างความแตกต่างให้ธุรกิจคุณ

การทำธุรกิจนั้น ทุกแบรนด์ต่างก็อยากให้แบรนด์ของตัวเองมีชื่อเสียง เมื่อพูดถึงชื่อแล้ว ใครๆ ก็รู้จัก และเป็นชื่อแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงหากพูดถึงผลิตภัณฑ์หรือสินค้าบางอย่าง ซึ่งนอกจากจะทำให้สินค้าติดตลาดแล้ว การมีสโลแกนสั้นๆ ยังช่วยให้สินค้าเป็นที่จดจำในตลาดอีกด้วย!

ยิ่งถ้าสโลแกนสินค้าไหนติดปากผู้บริโภคก็จะช่วยให้สินค้าติดใจผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น แต่การสร้างสโลแกนให้ลูกค้าจดจำและโดนใจอาจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนัก บางครั้งต้องใช้การตลาดและโฆษณาเข้ามาช่วย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับยุคปัจจุบัน มาดูเทคนิคการตั้งสโลแกนให้ปังกันเลยค่า

1. ข้อความจดจำง่าย ได้ยินแล้วพูดซ้ำได้เลย เช่น “รักคุณเท่าฟ้า” ของการบินไทย “หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา” ของเซเว่นฯ คือเมื่อฟังแล้วไม่ทำให้สับสนวกวน เป็นคำแบบเข้าใจง่าย เหมือนกับเป็นคำที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน

2. ข้อความสั้นและกระชับ สโลแกนยาวเกินไปก็จำยาก เอาสั้นๆ ให้กระชับและได้ใจความ ไม่ควรเกิน 10 พยางค์ เช่น “ลูกผู้ชายตัวจริง” ของกระทิงแดง “เค็มแต่ดี” ของยาสีฟันซอลส์

3. สื่อความหมาย ต้องมีสิ่งที่บอกว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เช่น “ลืมได้เลยว่ามีรังแคร์” ของแบรนด์เฮดแอนด์โชว์เดอร์ ซึ่งสื่อความหมายออกมาว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับดูแลเส้นผมและศีรษะ

4. แตกต่างแต่ดูดี สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขันในตลาดให้มาก โดยการตั้งสโลแกนแบบนี้จะทำให้สินค้าชนิดเดียวกันนั้นดูแตกต่างกันได้ ทั้งที่ความจริงแล้วสินค้าแบบนี้ยังมีอีกหลายยี่ห้อภายในตลาด

5. แสดงออกด้านบวก ฟังแล้วเกิดความรู้สึกดีต่อแบรนด์ เช่น “กินแล้วภาคภูมิใจเบียร์คนไทยทำเอง” สโลแกนของเบียร์ช้าง “เมืองไทยของเรา เบียร์ไทยของเรา” สโลแกนเบียร์สิงห์ ซึ่งเมื่อฟังแล้วจะรู้สึกถึงความภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความชื่นชมในแบรนด์สินค้าดังกล่าว ทั้งที่ชื่อแบรนด์สินค้าดังกล่าวไม่ค่อยจะดี

6. สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสโลแกนของคุณ ไม่ควรลอกเลียนแบบ ใช้คำซ้ำซาก หรือเล่นคำมากเกินไป เช่นน้ำดื่มคริสตัล ที่ใช้สโลแกนว่า “คิดจะดื่มน้ำ ดื่มคริสตัล” ที่ใส่ชื่อแบรนด์ของตัวเองลงไปในสโลแกนเพื่อบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของสินค้า และมีการเล่นคำแต่ก็ไม่มากจนเกินไป

7. เฉพาะเจาะจง บ่งบอกถึงธุรกิจของคุณ อย่าเลือกใช้คำที่มีความหมายกว้างมากจนเกินไป จนผู้รับสารไม่เข้าใจถึงความหมายที่ต้องการสื่อสาร เช่นชุดเครื่องนอนทิวลิป ที่ใช้สโลแกนว่า “หลับสบายสไตล์ทิวลิป” แค่ได้ฟัง หรือได้อ่านก็ทราบแล้วว่าเจ้าของสโลแกนนี้กำลังจะขายอะไร เพราะความหมายก็ได้บ่งบอกถึงสิ่งที่ขาย และความหมายนั้นก็ไม่ได้กว้างจนทำให้การคาดเดาความหมายนั้นยากเกินไป

8. สโลแกนต้องโดดเด่น สะดุดตา สะดุดหู เมื่อได้พบเห็น อย่างเช่น คุณอาจจะใช้ประโยคที่บอกถึงข้อดีของสินค้าของคุณให้เด่นชัดขึ้นมา เมื่อได้ยิน หรือได้ฟัง ก็จะทำให้ผู้บริโภคคิดว่าสินค้าชนิดนี้จะเป็นตามสโลแกนหรือไม่ จนเกิดการซื้อเพื่อมาพิสูจน์ความจริง

9. จูงใจ ทำให้คนเชื่อที่สิ่งที่นำเสนอ เช่น “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” สโลแกนของบิ๊กซีที่พยายามโน้มน้าว ชักจูงให้ลูกค้าเชื่อว่า นอกจากสินค้าภายในห้างของเขาจะถูกแล้ว ยังมีสินค้าทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งถือเป็นสโลแกนที่ทำให้ลูกค้าเชื่อและจูงใจให้มาซื้อสินค้าที่ห้างของเขาได้ง่าย

10. น่าเชื่อถือ สะท้อนลักษณะเด่นที่ฟังดูเป็นไปได้ เช่น คำสัญญา คุณสมบัติพิเศษ เช่น “รักคุณเท่าฟ้า” สโลแกนของการบินไทย ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่ประทับใจ รักลูกค้าทุกคนที่ใช้บริการเท่าฟ้า หรือ ธนาคารกสิกรไทยที่ใช้สโลแกน “บริการทุกระดับประทับใจ” เขาต้องการสื่อให้เห็นว่าลูกค้าคือคนพิเศษเสมอ สังเกตได้ว่าเมื่อเดินเข้าไปธนาคารกสิกรไทยไม่ว่าจะสาขาใดก็ตาม ก็จะมีพนักงานมายืนรอต้อนรับลูกค้าเสมอ

-----------------------------------------------------------------------------------

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

>> https://www.chatstickmarket.com/langran

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

>>https://www.chatstickmarket.com/portfolio

------------------------------------------------------------------------------------

💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick