top of page

เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด❌เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า


เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด❌เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า  หากคุณกำลังพยายามค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อ ค่าเช่าพื้นที่ในห้าง? โดยบทความนี้พูดถึงทำเลค้าขายหลายคนต้องนึกถึง “ห้างสรรพสินค้า” วันนี้เราได้รวบรวม 10 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า ไปอ่านกันเลย  🔹ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก เป็นความคิดติดอันดับต้นๆ ที่ทำให้เจ้าของร้านถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มในการเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าคือ เรื่องของเงินลงทุน เพราะคิดว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งถ้าหากเจ้าของร้านมีความต้องการ และตั้งใจจริงที่จะเปิดร้านในศูนย์การค้า แต่ยังกังวลในเรื่องของเงินลงทุน กับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมา แนะนำให้เจ้าของร้านเข้ามาพูดคุย หรือปรึกษากับทางห้างสรรพสินค้าก่อน เนื่องจากภายในห้างสรรพสินค้านั้นมีพื้นที่ และทำเลที่มีความหลากหลาย ทางห้างสรรพสินค้าจะได้ช่วยวิเคราะห์ หาพื้นที่ที่เหมาะกับเงินลงทุนของคุณได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถือเงินลงทุนก้อนโตเท่านั้นถึงจะเปิดร้านได้ ค่าใช้จ่ายหลักๆที่จะเจอ เช่น สัญญา 1 ปี คิดเงินประกัน 3 เดือนของค่าเช่า ซึ่งเงินประกันทางห้างจะเก็บไว้ เมื่อสัญญาสิ้นสุดสัญญจะคืนให้ หรือ สัญญา 3 ปี คิดเงินประกัน 6 เดือนของค่าเช่า เป็นหลักเกณฑ์ที่ห้างส่วนใหญ่ใช้ ดังนั้นเจ้าของร้านควรมีเงินหมุนเวียนสำหรับส่วนนี้ด้วย  🔹ทำการตลาดได้ยาก เจ้าของร้านบางคนอาจจะคิดว่า ถ้าเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า การทำการตลาดอาจเป็นเรื่องยากแน่ๆ แต่ในความจริงแล้วทางห้างสรรพสินค้าจะมีทีม Marketing Support ที่จะคอยให้คำปรึกษา และช่วยเหลือด้านการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้าน ทั้งในช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์, เฟสบุ๊ก, อินสตาแกรม โดยเจ้าของร้านสามารถเข้ามาโปรโมทร้านของตัวเองได้ และช่องทางออฟไลน์ เช่น สื่อ LED, บิลบอร์ด, ป้ายโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ภายในศูนย์การค้า ภายในระยะเวลาที่กำหนด   🔹อยากเปิดร้านอะไรก็ได้ขอแค่มีเงินจ่ายค่าเช่า บางคนอาจมีเงินมากพอและอยากเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าและคิดว่าจะเปิดร้านอะไรแบบไหนก็ได้ ซึ่งในความจริงเจ้าของร้านต้องสำรวจความพร้อมด้าน Brand Profile ของร้าน การทำ Brand Profile เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ เพื่อนำมาเสนอให้ห้างสรรพสินค้าพิจารณาก่อน ว่าสินค้าหรือบริการของเราเป็นประเภทไหน ขายอะไร มีจุดเด่นอะไร ราคาขายเท่าไหร่ ต้องการพื้นที่กี่ตารางเมตร ต้องชี้แจงรายละเอียดสิ่งที่ต้องการทั้งหมด แล้วทางห้างสรรพสินค้าจะพิจารณาสินค้าของเรา รวมถึงพิจารณาว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสม ตามที่ร้านต้องการ และดูกลุ่มลูกค้าให้ตรงกับประเภทร้านด้วย  🔹คิดว่าเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าจะมีแต่ค่าเช่าเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ค้าขายในห้างไม่ได้มีแต่ค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ยังมีอีกหลายค่าใช้จ่ายที่เราควรรู้ เริ่มจากค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ยังมีค่าที่จอดรถ บางที่อาจคิดเป็นรายเดือน หรือบางที่อาจให้สิทธิจอดรถได้ 1 คัน ค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับแต่ละกิจการ) , ค่าภาษีรายได้ , ค่าภาษีโรงเรือน โดยส่วนใหญ่ผู้เช่าจะต้องรับภาระการจ่ายอยู่ที่ 12.5% ของค่าเช่า และยังมีข้อตกลงของบ้างห้างสรรพสินค้าในการขอความร่วมมือค่าใช้จ่ายด้านการจัดกิจกรรมของห้าง เช่นการที่ทางห้างจัดโปรโมชั่นลดราคาต่างๆ แล้วขอให้เราซึ่งเป็นร้านค้าเข้าร่วมรายการ ทำให้ร้านอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนราคาขายที่ลดลงด้วย   🔹มีหลายช่องทางในการติดต่อเช่าพื้นที่ภายในห้าง หลายคนอาจคิดว่าเราต้องติดต่อทางห้างโดยตรงเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงการติดต่อสำนักงานขายของทางห้างก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ความชัดเจนทันที แต่ในความเป็นจริงมีวิธีการติดต่อเช่าพื้นที่ค้าขายในอีกหลายช่องทาง เช่น การติดต่อผ่านเว็บไซต์ประกาศให้เช่าซึ่งอาจเป็นบริษัทเอกชนที่มารับช่วงต่อเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่กับห้างสรรพสินค้า หรือบางทีเราอาจติดต่อผ่านทางบริษัทออแกไนซ์สำหรับการเปิดร้านในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้คนรู้จักสินค้าเรามากขึ้น ซึ่งออแกไนซ์บางแห่งได้เช่าพื้นที่กับทางห้างเอาไว้และได้แบ่งให้ร้านค้ามาเช่าพื้นที่ค้าขายได้ในเวลาสั้นๆ  🔹ต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง หลายคนฟังต่อมาอีกทีว่าการเตรียมเอกสารนั่นยุ่งยากวุ่นวายแต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้วุ่นวายอย่างที่เข้าใจ สำคัญๆ ที่ต้องเตรียมเช่น หนังสือรับรองใบอนุญาตประกอบการ , ข้อมูลสินค้าที่ต้องการเปิดร้าน ,ประวัติความเป็นมาของร้าน , รูปแบบร้าน แบบแปลน ภาพร่างของร้านค้า หากมีภาพถ่ายรูปแบบร้านที่จัดเป็นตัวอย่างก็สามารถเอามาประกอบการพิจารณากับทางห้างสรรพสินค้าได้ 9. การลงทุนในห้างมีแต่การเช่าพื้นที่เท่านั้น  อันนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอยากลงทุนเปิดร้านในห้างมีแต่วิธีเช่าพื้นที่เปิดร้านอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในห้างมี 2 แบบคือ ขายฝาก ป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้ค้าขายกันต่อไปแต่ถ้าขายไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะยกเลิกสัญญาได้ การเช่าพื้นที่ คือรูปแบบบทั่วไปที่เราเข้าใจกัน มีพื้นที่ในการเช่าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่เราต้องการเปิดกิจการ   🔹เปิดร้านในห้างสรรพสินค้า สิ่งที่หลายคนคิดคือในห้างสรรพสินค้าเราต้องแลกกับค่าเช่าพื้นที่ซึ่งค่อนข้างสูง และยังต้องเจอคู่แข่งมากมาย ทางห้างก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรแค่กินค่าเช่าเราไปวันๆ ทำให้หลายคนคิดว่าการขายของในห้างก็ไม่ต่างจากการขายของข้างนอกแค่ในห้างเป็นจุดศูนย์รวมของคนจำนวนมากกว่าก็เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงห้างสรรพสินค้าเองเขามีทีมกลยุทธ์ มีทีมการตลาด สิ่งที่เห็นคือแคมเปญการตลาดต่าง ๆ การจัดอีเว้นท์ การจัดกิจกรรม การจ้างดารานักแสดงมาเป็นพรีเซนเตอร์ต่างๆ   เรื่องเหล่านี้เราจะไม่เจอถ้าเราไปเปิดร้านนอกห้างสรรพสินค้า การที่เราคิดว่าห้างกินค่าเช่าแล้วไม่ทำอะไรจึงเป็นความเข้าใจที่ผิด สิ่งที่ห้างสรรพสินค้าทำคือการดึงดูดลูกค้าจากทั่วสารทิศให้เข้ามาใช้บริการ เท่ากับเปิดโอกาสให้เราขายของได้มากขึ้นด้วย  🔹คิดว่าต้องเปิดร้านขนาดใหญ่เท่านั้น คนมักเข้าใจผิดว่าห้างสรรพสินค้ามักรับแต่แบรนด์ดังเท่านั้น การที่ผู้ลงทุนอาจเป็นเพียงร้านเล็กๆ คงไม่สามารถนำร้านเข้าไปอยู่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว พื้นที่เช่าของห้างสรรพสินค้าแบ่งเป็น 4 แบบคือ พื้นที่สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่   1.พื้นที่ตั้งแต่ 50 ตร.ม.ขึ้นไป ค่าเช่าคิดเป็นตารางเมตร ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละห้าง   2.พื้นที่สำหรับร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก พื้นที่ตั้งแต่ 15-36 ตร.ม. คิดค่าเช่าเป็นรายเดือน   3.ล็อคขายสินค้า บูธ และคีออสขนาดเล็ก   4.พื้นที่ตั้งแต่ 4-6 ตร.ม. คิดค่าเช่าเป็นรายเดือน บูธขายสินค้าในลานโปรโมชั่น สำหรับคนอยากออกบูธ โปรโมทสินค้าในเวลาสั้นๆ พื้นที่ 2-4 ตร.ม.  🔹มีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่ยุ่งยาก อีกสาเหตุที่ทำให้เจ้าของร้าน ยังไม่ตัดสินใจที่จะนำร้านเข้ามาเปิดในศูนย์การค้า ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าศูนย์การค้ามีกฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่า ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับในกฎต่างๆ ที่ศูนย์การค้ากำหนด โดยเฉพาะกับร้านที่เปิดแบบ Stand Alone มาก่อน ซึ่งแบบนั้นอาจจะไม่ได้มีข้อบังคับในบางเรื่อง ทำให้เจ้าของร้านบางคนรู้สึกว่ามีอิสระมากกว่า ไม่ต้องอยู่ในกฎ ข้อบังคับ ตัวอย่างเช่น ระเบียบ ข้อบังคับในเรื่องของความปลอดภัย ในแง่ของการก่อสร้าง ก็จำเป็นต้องมีถังดับเพลิง เพื่อความปลอดภัยอยู่แล้ว การเปิดร้านนอกศูนย์การค้าก็ต้องมีถังดับเพลิง   และอุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะไม่มีใครบังคับ ซึ่งศูนย์การค้าจะมีข้อกำหนดที่บอกไว้อย่างละเอียดและต้องทำตาม เพราะหากเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นมา ก็คงไม่คุ้มกับความเสียหายที่ตามมา  🔹การลงทุนในห้างมีแต่การเช่าพื้นที่เท่านั้น อันนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอยากลงทุนเปิดร้านในห้างมีแต่วิธีเช่าพื้นที่เปิดร้านอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในห้างมี 2 แบบคือ   1.ขายฝาก ป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้ค้าขายกันต่อไปแต่ถ้าขายไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะยกเลิกสัญญาได้   2.การเช่าพื้นที่ คือรูปแบบบทั่วไปที่เราเข้าใจกัน มีพื้นที่ในการเช่าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่เราต้องการเปิดกิจการ  ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >>https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran  🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด❌เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า


หากคุณกำลังพยายามค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อ ค่าเช่าพื้นที่ในห้าง? โดยบทความนี้พูดถึงทำเลค้าขายหลายคนต้องนึกถึง “ห้างสรรพสินค้า” วันนี้เราได้รวบรวม 10 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า ไปอ่านกันเลย


🔹ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก

เป็นความคิดติดอันดับต้นๆ ที่ทำให้เจ้าของร้านถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มในการเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าคือ เรื่องของเงินลงทุน เพราะคิดว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งถ้าหากเจ้าของร้านมีความต้องการ และตั้งใจจริงที่จะเปิดร้านในศูนย์การค้า แต่ยังกังวลในเรื่องของเงินลงทุน กับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมา แนะนำให้เจ้าของร้านเข้ามาพูดคุย หรือปรึกษากับทางห้างสรรพสินค้าก่อน เนื่องจากภายในห้างสรรพสินค้านั้นมีพื้นที่ และทำเลที่มีความหลากหลาย ทางห้างสรรพสินค้าจะได้ช่วยวิเคราะห์ หาพื้นที่ที่เหมาะกับเงินลงทุนของคุณได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถือเงินลงทุนก้อนโตเท่านั้นถึงจะเปิดร้านได้ ค่าใช้จ่ายหลักๆที่จะเจอ เช่น สัญญา 1 ปี คิดเงินประกัน 3 เดือนของค่าเช่า ซึ่งเงินประกันทางห้างจะเก็บไว้ เมื่อสัญญาสิ้นสุดสัญญจะคืนให้ หรือ สัญญา 3 ปี คิดเงินประกัน 6 เดือนของค่าเช่า เป็นหลักเกณฑ์ที่ห้างส่วนใหญ่ใช้ ดังนั้นเจ้าของร้านควรมีเงินหมุนเวียนสำหรับส่วนนี้ด้วย


🔹ทำการตลาดได้ยาก

เจ้าของร้านบางคนอาจจะคิดว่า ถ้าเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า การทำการตลาดอาจเป็นเรื่องยากแน่ๆ แต่ในความจริงแล้วทางห้างสรรพสินค้าจะมีทีม Marketing Support ที่จะคอยให้คำปรึกษา และช่วยเหลือด้านการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้าน ทั้งในช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์, เฟสบุ๊ก, อินสตาแกรม โดยเจ้าของร้านสามารถเข้ามาโปรโมทร้านของตัวเองได้ และช่องทางออฟไลน์ เช่น สื่อ LED, บิลบอร์ด, ป้ายโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ภายในศูนย์การค้า ภายในระยะเวลาที่กำหนด


🔹อยากเปิดร้านอะไรก็ได้ขอแค่มีเงินจ่ายค่าเช่า

บางคนอาจมีเงินมากพอและอยากเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าและคิดว่าจะเปิดร้านอะไรแบบไหนก็ได้ ซึ่งในความจริงเจ้าของร้านต้องสำรวจความพร้อมด้าน Brand Profile ของร้าน การทำ Brand Profile เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ เพื่อนำมาเสนอให้ห้างสรรพสินค้าพิจารณาก่อน ว่าสินค้าหรือบริการของเราเป็นประเภทไหน ขายอะไร มีจุดเด่นอะไร ราคาขายเท่าไหร่ ต้องการพื้นที่กี่ตารางเมตร ต้องชี้แจงรายละเอียดสิ่งที่ต้องการทั้งหมด แล้วทางห้างสรรพสินค้าจะพิจารณาสินค้าของเรา รวมถึงพิจารณาว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสม ตามที่ร้านต้องการ และดูกลุ่มลูกค้าให้ตรงกับประเภทร้านด้วย


🔹คิดว่าเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าจะมีแต่ค่าเช่าเท่านั้น

ค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ค้าขายในห้างไม่ได้มีแต่ค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ยังมีอีกหลายค่าใช้จ่ายที่เราควรรู้ เริ่มจากค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ยังมีค่าที่จอดรถ บางที่อาจคิดเป็นรายเดือน หรือบางที่อาจให้สิทธิจอดรถได้ 1 คัน ค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับแต่ละกิจการ) , ค่าภาษีรายได้ , ค่าภาษีโรงเรือน โดยส่วนใหญ่ผู้เช่าจะต้องรับภาระการจ่ายอยู่ที่ 12.5% ของค่าเช่า และยังมีข้อตกลงของบ้างห้างสรรพสินค้าในการขอความร่วมมือค่าใช้จ่ายด้านการจัดกิจกรรมของห้าง เช่นการที่ทางห้างจัดโปรโมชั่นลดราคาต่างๆ แล้วขอให้เราซึ่งเป็นร้านค้าเข้าร่วมรายการ ทำให้ร้านอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนราคาขายที่ลดลงด้วย


🔹มีหลายช่องทางในการติดต่อเช่าพื้นที่ภายในห้าง

หลายคนอาจคิดว่าเราต้องติดต่อทางห้างโดยตรงเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงการติดต่อสำนักงานขายของทางห้างก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ความชัดเจนทันที แต่ในความเป็นจริงมีวิธีการติดต่อเช่าพื้นที่ค้าขายในอีกหลายช่องทาง เช่น การติดต่อผ่านเว็บไซต์ประกาศให้เช่าซึ่งอาจเป็นบริษัทเอกชนที่มารับช่วงต่อเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่กับห้างสรรพสินค้า หรือบางทีเราอาจติดต่อผ่านทางบริษัทออแกไนซ์สำหรับการเปิดร้านในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้คนรู้จักสินค้าเรามากขึ้น ซึ่งออแกไนซ์บางแห่งได้เช่าพื้นที่กับทางห้างเอาไว้และได้แบ่งให้ร้านค้ามาเช่าพื้นที่ค้าขายได้ในเวลาสั้นๆ


🔹ต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง

หลายคนฟังต่อมาอีกทีว่าการเตรียมเอกสารนั่นยุ่งยากวุ่นวายแต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้วุ่นวายอย่างที่เข้าใจ สำคัญๆ ที่ต้องเตรียมเช่น หนังสือรับรองใบอนุญาตประกอบการ , ข้อมูลสินค้าที่ต้องการเปิดร้าน ,ประวัติความเป็นมาของร้าน , รูปแบบร้าน แบบแปลน ภาพร่างของร้านค้า หากมีภาพถ่ายรูปแบบร้านที่จัดเป็นตัวอย่างก็สามารถเอามาประกอบการพิจารณากับทางห้างสรรพสินค้าได้ 9. การลงทุนในห้างมีแต่การเช่าพื้นที่เท่านั้น


อันนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอยากลงทุนเปิดร้านในห้างมีแต่วิธีเช่าพื้นที่เปิดร้านอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในห้างมี 2 แบบคือ ขายฝาก ป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้ค้าขายกันต่อไปแต่ถ้าขายไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะยกเลิกสัญญาได้ การเช่าพื้นที่ คือรูปแบบบทั่วไปที่เราเข้าใจกัน มีพื้นที่ในการเช่าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่เราต้องการเปิดกิจการ


🔹เปิดร้านในห้างสรรพสินค้า

สิ่งที่หลายคนคิดคือในห้างสรรพสินค้าเราต้องแลกกับค่าเช่าพื้นที่ซึ่งค่อนข้างสูง และยังต้องเจอคู่แข่งมากมาย ทางห้างก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรแค่กินค่าเช่าเราไปวันๆ ทำให้หลายคนคิดว่าการขายของในห้างก็ไม่ต่างจากการขายของข้างนอกแค่ในห้างเป็นจุดศูนย์รวมของคนจำนวนมากกว่าก็เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงห้างสรรพสินค้าเองเขามีทีมกลยุทธ์ มีทีมการตลาด สิ่งที่เห็นคือแคมเปญการตลาดต่าง ๆ การจัดอีเว้นท์ การจัดกิจกรรม การจ้างดารานักแสดงมาเป็นพรีเซนเตอร์ต่างๆ


เรื่องเหล่านี้เราจะไม่เจอถ้าเราไปเปิดร้านนอกห้างสรรพสินค้า การที่เราคิดว่าห้างกินค่าเช่าแล้วไม่ทำอะไรจึงเป็นความเข้าใจที่ผิด สิ่งที่ห้างสรรพสินค้าทำคือการดึงดูดลูกค้าจากทั่วสารทิศให้เข้ามาใช้บริการ เท่ากับเปิดโอกาสให้เราขายของได้มากขึ้นด้วย


🔹คิดว่าต้องเปิดร้านขนาดใหญ่เท่านั้น

คนมักเข้าใจผิดว่าห้างสรรพสินค้ามักรับแต่แบรนด์ดังเท่านั้น การที่ผู้ลงทุนอาจเป็นเพียงร้านเล็กๆ คงไม่สามารถนำร้านเข้าไปอยู่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว พื้นที่เช่าของห้างสรรพสินค้าแบ่งเป็น 4 แบบคือ พื้นที่สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่


1.พื้นที่ตั้งแต่ 50 ตร.ม.ขึ้นไป ค่าเช่าคิดเป็นตารางเมตร ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละห้าง


2.พื้นที่สำหรับร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก พื้นที่ตั้งแต่ 15-36 ตร.ม. คิดค่าเช่าเป็นรายเดือน


3.ล็อคขายสินค้า บูธ และคีออสขนาดเล็ก


4.พื้นที่ตั้งแต่ 4-6 ตร.ม. คิดค่าเช่าเป็นรายเดือน บูธขายสินค้าในลานโปรโมชั่น สำหรับคนอยากออกบูธ โปรโมทสินค้าในเวลาสั้นๆ พื้นที่ 2-4 ตร.ม.


🔹มีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่ยุ่งยาก

อีกสาเหตุที่ทำให้เจ้าของร้าน ยังไม่ตัดสินใจที่จะนำร้านเข้ามาเปิดในศูนย์การค้า ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าศูนย์การค้ามีกฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่า ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับในกฎต่างๆ ที่ศูนย์การค้ากำหนด โดยเฉพาะกับร้านที่เปิดแบบ Stand Alone มาก่อน ซึ่งแบบนั้นอาจจะไม่ได้มีข้อบังคับในบางเรื่อง ทำให้เจ้าของร้านบางคนรู้สึกว่ามีอิสระมากกว่า ไม่ต้องอยู่ในกฎ ข้อบังคับ ตัวอย่างเช่น ระเบียบ ข้อบังคับในเรื่องของความปลอดภัย ในแง่ของการก่อสร้าง ก็จำเป็นต้องมีถังดับเพลิง เพื่อความปลอดภัยอยู่แล้ว การเปิดร้านนอกศูนย์การค้าก็ต้องมีถังดับเพลิง


และอุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะไม่มีใครบังคับ ซึ่งศูนย์การค้าจะมีข้อกำหนดที่บอกไว้อย่างละเอียดและต้องทำตาม เพราะหากเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นมา ก็คงไม่คุ้มกับความเสียหายที่ตามมา


🔹การลงทุนในห้างมีแต่การเช่าพื้นที่เท่านั้น

อันนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอยากลงทุนเปิดร้านในห้างมีแต่วิธีเช่าพื้นที่เปิดร้านอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในห้างมี 2 แบบคือ


1.ขายฝาก ป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้ค้าขายกันต่อไปแต่ถ้าขายไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะยกเลิกสัญญาได้


2.การเช่าพื้นที่ คือรูปแบบบทั่วไปที่เราเข้าใจกัน มีพื้นที่ในการเช่าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่เราต้องการเปิดกิจการ


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 36 ครั้ง

Comments


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page