เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด❌เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า
เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด❌เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า
หากคุณกำลังพยายามค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อ ค่าเช่าพื้นที่ในห้าง? โดยบทความนี้พูดถึงทำเลค้าขายหลายคนต้องนึกถึง “ห้างสรรพสินค้า” วันนี้เราได้รวบรวม 10 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด เกี่ยวกับเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า ไปอ่านกันเลย
🔹ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก
เป็นความคิดติดอันดับต้นๆ ที่ทำให้เจ้าของร้านถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มในการเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าคือ เรื่องของเงินลงทุน เพราะคิดว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งถ้าหากเจ้าของร้านมีความต้องการ และตั้งใจจริงที่จะเปิดร้านในศูนย์การค้า แต่ยังกังวลในเรื่องของเงินลงทุน กับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมา แนะนำให้เจ้าของร้านเข้ามาพูดคุย หรือปรึกษากับทางห้างสรรพสินค้าก่อน เนื่องจากภายในห้างสรรพสินค้านั้นมีพื้นที่ และทำเลที่มีความหลากหลาย ทางห้างสรรพสินค้าจะได้ช่วยวิเคราะห์ หาพื้นที่ที่เหมาะกับเงินลงทุนของคุณได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถือเงินลงทุนก้อนโตเท่านั้นถึงจะเปิดร้านได้ ค่าใช้จ่ายหลักๆที่จะเจอ เช่น สัญญา 1 ปี คิดเงินประกัน 3 เดือนของค่าเช่า ซึ่งเงินประกันทางห้างจะเก็บไว้ เมื่อสัญญาสิ้นสุดสัญญจะคืนให้ หรือ สัญญา 3 ปี คิดเงินประกัน 6 เดือนของค่าเช่า เป็นหลักเกณฑ์ที่ห้างส่วนใหญ่ใช้ ดังนั้นเจ้าของร้านควรมีเงินหมุนเวียนสำหรับส่วนนี้ด้วย
🔹ทำการตลาดได้ยาก
เจ้าของร้านบางคนอาจจะคิดว่า ถ้าเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า การทำการตลาดอาจเป็นเรื่องยากแน่ๆ แต่ในความจริงแล้วทางห้างสรรพสินค้าจะมีทีม Marketing Support ที่จะคอยให้คำปรึกษา และช่วยเหลือด้านการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้าน ทั้งในช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์, เฟสบุ๊ก, อินสตาแกรม โดยเจ้าของร้านสามารถเข้ามาโปรโมทร้านของตัวเองได้ และช่องทางออฟไลน์ เช่น สื่อ LED, บิลบอร์ด, ป้ายโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ภายในศูนย์การค้า ภายในระยะเวลาที่กำหนด
🔹อยากเปิดร้านอะไรก็ได้ขอแค่มีเงินจ่ายค่าเช่า
บางคนอาจมีเงินมากพอและอยากเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าและคิดว่าจะเปิดร้านอะไรแบบไหนก็ได้ ซึ่งในความจริงเจ้าของร้านต้องสำรวจความพร้อมด้าน Brand Profile ของร้าน การทำ Brand Profile เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ เพื่อนำมาเสนอให้ห้างสรรพสินค้าพิจารณาก่อน ว่าสินค้าหรือบริการของเราเป็นประเภทไหน ขายอะไร มีจุดเด่นอะไร ราคาขายเท่าไหร่ ต้องการพื้นที่กี่ตารางเมตร ต้องชี้แจงรายละเอียดสิ่งที่ต้องการทั้งหมด แล้วทางห้างสรรพสินค้าจะพิจารณาสินค้าของเรา รวมถึงพิจารณาว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสม ตามที่ร้านต้องการ และดูกลุ่มลูกค้าให้ตรงกับประเภทร้านด้วย
🔹คิดว่าเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าจะมีแต่ค่าเช่าเท่านั้น
ค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ค้าขายในห้างไม่ได้มีแต่ค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ยังมีอีกหลายค่าใช้จ่ายที่เราควรรู้ เริ่มจากค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ยังมีค่าที่จอดรถ บางที่อาจคิดเป็นรายเดือน หรือบางที่อาจให้สิทธิจอดรถได้ 1 คัน ค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับแต่ละกิจการ) , ค่าภาษีรายได้ , ค่าภาษีโรงเรือน โดยส่วนใหญ่ผู้เช่าจะต้องรับภาระการจ่ายอยู่ที่ 12.5% ของค่าเช่า และยังมีข้อตกลงของบ้างห้างสรรพสินค้าในการขอความร่วมมือค่าใช้จ่ายด้านการจัดกิจกรรมของห้าง เช่นการที่ทางห้างจัดโปรโมชั่นลดราคาต่างๆ แล้วขอให้เราซึ่งเป็นร้านค้าเข้าร่วมรายการ ทำให้ร้านอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนราคาขายที่ลดลงด้วย
🔹มีหลายช่องทางในการติดต่อเช่าพื้นที่ภายในห้าง
หลายคนอาจคิดว่าเราต้องติดต่อทางห้างโดยตรงเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงการติดต่อสำนักงานขายของทางห้างก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ความชัดเจนทันที แต่ในความเป็นจริงมีวิธีการติดต่อเช่าพื้นที่ค้าขายในอีกหลายช่องทาง เช่น การติดต่อผ่านเว็บไซต์ประกาศให้เช่าซึ่งอาจเป็นบริษัทเอกชนที่มารับช่วงต่อเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่กับห้างสรรพสินค้า หรือบางทีเราอาจติดต่อผ่านทางบริษัทออแกไนซ์สำหรับการเปิดร้านในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้คนรู้จักสินค้าเรามากขึ้น ซึ่งออแกไนซ์บางแห่งได้เช่าพื้นที่กับทางห้างเอาไว้และได้แบ่งให้ร้านค้ามาเช่าพื้นที่ค้าขายได้ในเวลาสั้นๆ
🔹ต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง
หลายคนฟังต่อมาอีกทีว่าการเตรียมเอกสารนั่นยุ่งยากวุ่นวายแต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้วุ่นวายอย่างที่เข้าใจ สำคัญๆ ที่ต้องเตรียมเช่น หนังสือรับรองใบอนุญาตประกอบการ , ข้อมูลสินค้าที่ต้องการเปิดร้าน ,ประวัติความเป็นมาของร้าน , รูปแบบร้าน แบบแปลน ภาพร่างของร้านค้า หากมีภาพถ่ายรูปแบบร้านที่จัดเป็นตัวอย่างก็สามารถเอามาประกอบการพิจารณากับทางห้างสรรพสินค้าได้ 9. การลงทุนในห้างมีแต่การเช่าพื้นที่เท่านั้น
อันนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอยากลงทุนเปิดร้านในห้างมีแต่วิธีเช่าพื้นที่เปิดร้านอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในห้างมี 2 แบบคือ ขายฝาก ป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้ค้าขายกันต่อไปแต่ถ้าขายไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะยกเลิกสัญญาได้ การเช่าพื้นที่ คือรูปแบบบทั่วไปที่เราเข้าใจกัน มีพื้นที่ในการเช่าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่เราต้องการเปิดกิจการ
🔹เปิดร้านในห้างสรรพสินค้า
สิ่งที่หลายคนคิดคือในห้างสรรพสินค้าเราต้องแลกกับค่าเช่าพื้นที่ซึ่งค่อนข้างสูง และยังต้องเจอคู่แข่งมากมาย ทางห้างก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรแค่กินค่าเช่าเราไปวันๆ ทำให้หลายคนคิดว่าการขายของในห้างก็ไม่ต่างจากการขายของข้างนอกแค่ในห้างเป็นจุดศูนย์รวมของคนจำนวนมากกว่าก็เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงห้างสรรพสินค้าเองเขามีทีมกลยุทธ์ มีทีมการตลาด สิ่งที่เห็นคือแคมเปญการตลาดต่าง ๆ การจัดอีเว้นท์ การจัดกิจกรรม การจ้างดารานักแสดงมาเป็นพรีเซนเตอร์ต่างๆ
เรื่องเหล่านี้เราจะไม่เจอถ้าเราไปเปิดร้านนอกห้างสรรพสินค้า การที่เราคิดว่าห้างกินค่าเช่าแล้วไม่ทำอะไรจึงเป็นความเข้าใจที่ผิด สิ่งที่ห้างสรรพสินค้าทำคือการดึงดูดลูกค้าจากทั่วสารทิศให้เข้ามาใช้บริการ เท่ากับเปิดโอกาสให้เราขายของได้มากขึ้นด้วย
🔹คิดว่าต้องเปิดร้านขนาดใหญ่เท่านั้น
คนมักเข้าใจผิดว่าห้างสรรพสินค้ามักรับแต่แบรนด์ดังเท่านั้น การที่ผู้ลงทุนอาจเป็นเพียงร้านเล็กๆ คงไม่สามารถนำร้านเข้าไปอยู่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว พื้นที่เช่าของห้างสรรพสินค้าแบ่งเป็น 4 แบบคือ พื้นที่สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่
1.พื้นที่ตั้งแต่ 50 ตร.ม.ขึ้นไป ค่าเช่าคิดเป็นตารางเมตร ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละห้าง
2.พื้นที่สำหรับร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก พื้นที่ตั้งแต่ 15-36 ตร.ม. คิดค่าเช่าเป็นรายเดือน
3.ล็อคขายสินค้า บูธ และคีออสขนาดเล็ก
4.พื้นที่ตั้งแต่ 4-6 ตร.ม. คิดค่าเช่าเป็นรายเดือน บูธขายสินค้าในลานโปรโมชั่น สำหรับคนอยากออกบูธ โปรโมทสินค้าในเวลาสั้นๆ พื้นที่ 2-4 ตร.ม.
🔹มีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่ยุ่งยาก
อีกสาเหตุที่ทำให้เจ้าของร้าน ยังไม่ตัดสินใจที่จะนำร้านเข้ามาเปิดในศูนย์การค้า ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าศูนย์การค้ามีกฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่า ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับในกฎต่างๆ ที่ศูนย์การค้ากำหนด โดยเฉพาะกับร้านที่เปิดแบบ Stand Alone มาก่อน ซึ่งแบบนั้นอาจจะไม่ได้มีข้อบังคับในบางเรื่อง ทำให้เจ้าของร้านบางคนรู้สึกว่ามีอิสระมากกว่า ไม่ต้องอยู่ในกฎ ข้อบังคับ ตัวอย่างเช่น ระเบียบ ข้อบังคับในเรื่องของความปลอดภัย ในแง่ของการก่อสร้าง ก็จำเป็นต้องมีถังดับเพลิง เพื่อความปลอดภัยอยู่แล้ว การเปิดร้านนอกศูนย์การค้าก็ต้องมีถังดับเพลิง
และอุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะไม่มีใครบังคับ ซึ่งศูนย์การค้าจะมีข้อกำหนดที่บอกไว้อย่างละเอียดและต้องทำตาม เพราะหากเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นมา ก็คงไม่คุ้มกับความเสียหายที่ตามมา
🔹การลงทุนในห้างมีแต่การเช่าพื้นที่เท่านั้น
อันนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอยากลงทุนเปิดร้านในห้างมีแต่วิธีเช่าพื้นที่เปิดร้านอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในห้างมี 2 แบบคือ
1.ขายฝาก ป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้ค้าขายกันต่อไปแต่ถ้าขายไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะยกเลิกสัญญาได้
2.การเช่าพื้นที่ คือรูปแบบบทั่วไปที่เราเข้าใจกัน มีพื้นที่ในการเช่าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่เราต้องการเปิดกิจการ
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Comments