การใช้ Voice Search Optimization เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหา

การใช้ Voice Search Optimization เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหา

ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใช้การค้นหาด้วยเสียงผ่านสมาร์ทโฟน สมาร์ทสปีกเกอร์ หรือผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri, Alexa, Google Assistant กันมากขึ้น การทำ SEO สำหรับการค้นหาด้วยเสียงหรือ Voice Search Optimization จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นพบ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช้การค้นหาในรูปแบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Voice Search Optimization คือการออกแบบและปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการค้นหาด้วยเสียง ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างจากการค้นหาแบบพิมพ์ข้อความ เนื่องจากเป็นการใช้ภาษาพูดที่เป็นธรรมชาติ ยาว และเฉพาะเจาะจงมากกว่า อีกทั้งผลลัพธ์ที่แสดงมักจะมีจำนวนจำกัดกว่า ดังนั้น การทำ SEO เพื่อให้ติดอันดับต้นๆ บนหน้าผลการค้นหาด้วยเสียง จึงจำเป็นต้องปรับทั้งในแง่ของการใช้คำหลัก (Keywords), การสร้างเนื้อหา และการออกแบบเว็บไซต์ ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการทำ Voice Search Optimization มีดังนี้

1. เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย: จากผลสำรวจพบว่า มากกว่า 20% ของการค้นหาทั้งหมดทำผ่านการค้นหาด้วยเสียง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มอายุน้อย, ผู้ที่ชอบความสะดวกรวดเร็ว หรือผู้ที่ไม่ถนัดในการพิมพ์ข้อความ ดังนั้น การทำ Voice Search Optimization จึงเป็นการเปิดโอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้าที่หลากหลายขึ้น

2. ได้เปรียบในการแข่งขันบนหน้าผลการค้นหา: Voice Search มักจะแสดงผลการค้นหาที่น้อยกว่าการค้นหาแบบข้อความ โดยมากจะเน้นไปที่ 1-3 ผลลัพธ์แรกเท่านั้น ซึ่งมักเป็นผลลัพธ์ที่ "ดีที่สุด" สำหรับคำถามนั้นๆ ดังนั้น การติดอันดับต้นๆ ใน Voice Search จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์มีโอกาสถูกเลือกและเข้าถึงได้มากกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

3. เพิ่มโอกาสในการปรากฏตัวใน Featured Snippet: Featured Snippet คือกล่องข้อมูลพิเศษที่แสดงบนตำแหน่งแรกของหน้าผลการค้นหา Google ซึ่งมักนำเสนอเนื้อหาที่ตอบคำถามหรือให้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงได้ดีที่สุด และผลการวิจัยพบว่า ผลลัพธ์จาก Voice Search มักมาจาก Featured Snippet เป็นหลัก ดังนั้น การปรับเนื้อหาให้เหมาะสมเพื่อแย่งพื้นที่ตรงนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกอ่านออกเสียงโดยผู้ช่วยอัจฉริยะได้มากขึ้น

4. ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดยิ่งขึ้น: การค้นหาด้วยเสียงมักเป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจง มีเจตนาชัดเจน และต้องการคำตอบที่รวดเร็วทันใจ เช่น "ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดใกล้ฉัน" หรือ "สั่งพิซซ่าออนไลน์ที่ไหนดี" ดังนั้น การทำ Voice Search Optimization ด้วยการสร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามลูกค้าได้โดนใจ มีข้อมูลครบถ้วน และอ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็จะช่วยให้เว็บไซต์กลายเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ และนำไปสู่การเกิดคอนเวอร์ชันได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ ChatStick Team มีเทคนิคในการทำ Voice Search Optimization เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้

- ใช้ Long-tail Keywords ที่เป็นวลียาวๆ ในรูปแบบของคำถาม ซึ่งใกล้เคียงกับภาษาพูดในชีวิตประจำวัน เช่น "วิธีทำพิซซ่าในเตาอบ" หรือ "ร้านกาแฟน่านั่งใกล้ฉัน" เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ถามผ่าน Voice Search มากที่สุด

- สร้างเนื้อหาที่อ่านง่าย กระชับ และตอบคำถามได้ตรงประเด็น โดยเฉพาะในย่อหน้าแรกที่ควรเป็นการตอบคำถามสั้นๆ ได้ใจความ เหมาะสำหรับการอ่านออกเสียงโดยผู้ช่วยอัจฉริยะ และเขียนในโครงสร้างคำตอบ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ทำไม เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกเลือกเป็น Featured Snippet

- ทำ FAQ Page ไว้ตอบคำถามที่พบบ่อย โดยใช้โครงสร้างข้อมูล (Schema Markup) เพื่อช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น และมีโอกาสแสดงใน Featured Snippet มากขึ้น

- ออกแบบเว็บไซต์ให้รวดเร็ว ใช้งานง่าย และรองรับ Mobile เป็นหลัก ด้วยการลดขนาดไฟล์รูปภาพ, เลือกใช้ Hosting ที่มีประสิทธิภาพ, ทำ AMP (Accelerated Mobile Pages) เพื่อโหลดหน้าเว็บให้ไวขึ้นบนมือถือ เพราะ Voice Search ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟนนั่นเอง

- ลงทะเบียนข้อมูลบน Google My Business ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงผลเมื่อมีการค้นหาเกี่ยวกับสถานที่หรือธุรกิจในพื้นที่ รวมถึงมีรีวิวที่ดี ภาพถ่าย และโพสต์ อัปเดตอยู่เสมอ เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น

สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME ที่อยากเริ่มต้นทำ Voice Search Optimization สามารถเริ่มจากการศึกษาพฤติกรรมและคำถามที่ลูกค้ามักถามบ่อยๆ จากนั้นนำมาปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์ในรูปแบบคำถาม-คำตอบ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา และค่อยๆ ขยับไปสู่การทำ Voice Search Optimization แบบครบวงจรตามงบประมาณและศักยภาพที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะช่วยให้สามารถเพิ่มโอกาสในการค้นหาและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นในระยะยาว

และด้วยแนวโน้มของการใช้งาน Voice Search ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การเตรียมพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์นี้ จึงนับเป็นความจำเป็นที่นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจยุคใหม่ ต้องให้ความสำคัญ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และไม่ตกขบวนในการใช้ประโยชน์จากช่องทางการค้นหาที่กำลังจะเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต ท่ามกลางการแข่งขันทางการตลาดออนไลน์ที่ดุเดือดขึ้นทุกขณะนี้

#VoiceSearchOptimization #การค้นหาด้วยเสียง #SEO2024 #การตลาดออนไลน์ยุคใหม่ #SMEMarketing #OnlineMarketing #ChatStickTeam