หมวดบัญชี 5 หมวดได้แก่อะไรบ้าง
หมวดบัญชี 5 หมวดได้แก่อะไรบ้าง
📍หมวดบัญชีทั้ง 5 หมวด
1. สินทรัพย์ อยู่หมวด 1 เพิ่มด้านเดบิต ลดด้านเครดิต
2. หนี้สิน อยู่หมวด 2 เพิ่มด้านเครดิต ลดด้านเดบิต
3. ส่วนของเจ้าของ อยู่หมวด 3 เพิ่มด้านเครดิต ลดด้านเดบิต
4. รายได้ อยู่หมวด 4 เพิ่มด้านเครดิต ลดด้านเดบิต
5. ค่าใช้จ่าย อยู่หมวด 5 เพิ่มด้านเดบิต ลดด้านเครดิต
📍ความหมายของแต่ละหมวด
1. สินทรัพย์ (Assets) คือ สิ่งที่มีมูลค่า อันมีตัวตนหรือไม่มีตัวตน ซึ่งบุคคลหรือกิจการที่เป็นเจ้าของที่สามารถรับประโยชน์ได้จากกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
- สินทรัพย์ที่เป็นเงินหรือเทียบเท่า เช่น เงินสด เช็ค
- สินทรัพย์ที่เป็นสิทธิเรียกร้อง เช่น ลูกหนี้
- สินทรัพย์ที่มีตัวตน เช่น อาคาร รถ ที่ดิน
- สินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน เช่น สัมปทาน ลิขสิทธิ์
- รายจ่ายที่จ่ายไปแล้วผู้เป็นเจ้าของจะได้รับประโยชน์ในงวดบัญชีถัดไป เช่น ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าประเภทต่าง ๆ
ประเภทของสินทรัพย์มี 2 ประเภท ได้แก่
- สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) คือ สินทรัพย์ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร เช็ค เป็นต้น
- สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non-Current Assets) คือ สินทรัพย์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ เช่น เงินที่ให้กู้ระยะยาว เงินลงทุนระยะยาว รวมทั้ง สินทรัพย์ถาวร หรือสินทรัพย์ที่มีตัวตน และสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน
2. หนี้สิน (Liability) คือ ภาระหนี้สินในปัจจุบัน ที่เจ้าของธุรกิจต้องจ่ายคืนให้แก่บุคคลภายนอกในอนาคต เช่น เงินกู้ เจ้าหนี้จำนอง เงินเบิกเกินบัญชี เป็นต้น
ประเภทของหนี้สินมี 2 ประเภท ได้แก่
- หนี้สินหมุนเวียน (Current Liability) คือ ภาระหนี้สินที่เจ้าของธุรกิจต้องชำระคืน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่น เงินกู้ยืมจากธนาคารระยะสั้น เป็นต้น
- หนี้สินไม่หมุนเวียน (Non-Current Liability) คือ ภาระหนี้สินที่เจ้าของธุรกิจต้องชำระคืน ในระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี เช่น เงินกู้ระยะยาว พันธบัตรเงินกู้ เป็นต้น
3. ส่วนของเจ้าของ (Owner’s equity) คือ ส่วนได้เสียงคงเหลือในสินทรัพย์หลังจากหักหนี้สิน กรรมสิทธิ์ที่เจ้าของธุรกิจมีในสินทรัพย์ เรียกว่า สินทรัพย์สุทธิ มี 3 ประเภท ดังนี้
- ผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจเพียงคนเดียว
- ห้างหุ้นส่วน
- บริษัทจำกัด
4. รายได้ (Incomes) มี 2 ประเภท คือ ผลตอบแทนที่ได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการตามปกติ เรียกว่า รายได้จากการขาย (Sales) และผลตอบแทนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานตามปกติ เรียกว่า รายได้อื่น (Other incomes)
5. ค่าใช้จ่าย คือ ต้นทุนที่หักออกจากรายได้ มี 3 ประเภท ดังนี้
- ต้นทุนขาย (Cost of sales) คือ ต้นทุนของสินค้าที่ขายหรือให้บริการ อีกนัยหนึ่งคือ ในธุรกิจซื้อเพื่อขาย ต้นทุนของสินค้าที่ขายจะรวมต้นทุนราคาสินค้าที่ซื้อกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อให้สินค้าพร้อมขาย ส่วนในธุรกิจผลิตเพื่อขาย ต้นทุนของสินค้าที่ขาย คือ ต้นทุนการผลิตสินค้านั้น ๆ เช่น ค่าแรงงาน ค่าวัตถุดิบ เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating expenses) คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอันมาจากการขายสินค้าหรือให้บริการ และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการบริหารกิจการ
- ค่าใช้จ่ายอื่น (Other expenses) คือ ค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้
จะเห็นได้ว่า หมวดบัญชีทั้ง 5 หมวด ถือเป็นข้อมูลที่ใช้บันทึกในบัญชีแยกประเภทต่าง ๆ เพื่อความเป็นระบบระเบียบในการทำบัญชี และเพื่อความสะดวกต่อการจัดการข้อมูลต่าง ๆ
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Comments