top of page

บัญชีแยกประเภท คืออะไร❓ผู้ประกอบการควรรู้


บัญชีแยกประเภท คืออะไร❓ผู้ประกอบการควรรู้  📌บัญชีแยกประเภทคืออะไร ทำไมธุรกิจต้องทำบัญชีแยกประเภท บัญชีแยกประเภทเป็นหนึ่งในบัญชี 5 เล่มที่กิจการควรทำ เพราะเป็นบัญชีที่สรุปรายการต่างๆที่ผ่านมาจากสมุดบัญชีรายวัน โดยทำหน้าที่แยกประเภทและจัดเป็นหมวดหมู่ให้ดูง่าย จึงสะดวกในการจัดทำงบการเงินต่อไป  📌บัญชีแยกประเภท มี 2 ชนิด คือ 1.บัญชีแยกประเภททั่วไป บัญชีแยกประเภททั่วไปเป็นบัญชีเล่มหลัก ที่รวบรวมยอดของบัญชีแยกประเภททุกบัญชี ประกอบไปด้วย บัญชีแยกประเภทสินทรัพย์, บัญชีแยกประเภทหนี้สิน, บัญชีแยกประเภทส่วนของเจ้าของ, บัญชีแยกประเภทรายได้ และบัญชีแยกประเภทค่าใช้จ่าย  ประกอบด้วย - วัน เดือน ปี ที่มีการบันทึกรายการ - ข้อมูลและรายการบัญชี - จำนวนเงินเดบิต - วัน เดือน ปี ที่มีการบันทึกรายการ - ข้อมูลและรายการบัญชี - จำนวนเงินเครดิต  2.บัญชีแยกประเภทย่อย ในส่วนของบัญชีแยกประเภทย่อยเป็นเล่มบัญชีที่แสดงรายละเอียดเพิ่มขึ้นจากบัญชีทั่วไป ซึ่งจะมีบัญชีประเภทย่อยเจ้าหนี้ และบัญชีประเภทย่อยลูกหนี้ ที่แสดงรายละเอียดรายการและข้อมูลรายบุคคลทั้งหมด  ประกอบด้วย - วัน เดือน ปี ที่มีการบันทึกรายการ - ข้อมูลและรายการบัญชี - หน้าบัญชีของสมุดบันทึกรายการ - จำนวนเงินเดบิต - จำนวนเงินเครดิต  📌ประโยชน์ของ บัญชีแยกประเภท ทำให้เราสามารถเห็นการเพิ่มขึ้น หรือการลดลงของแต่ละบัญชีได้เลย นอกจากนี้นักบัญชียังใช้ “บัญชีแยกประเภท” ในการตรวจสอบรายการผิดปกติหรือรายการที่เกิดข้อผิดพลาดด้วย  ซึงนักบัญชีจะใช้ตรวจสอบกับเอกสารจริงที่ใช้บันทึกบัญชี  📌เครื่องมือในการจดบันทึกของนักบัญชี การจดบันทึกของนักบัญชีก็มีอยู่หลายแบบ เริ่มจากกิจการขนาดเล็ก จะมีการจดบันทึกเหตุการณ์ทางธุรกิจไว้เป็นรายการๆ ไปก่อน เช่น วันที่ 14 มกราคม ซื้อคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในสำนักงาน 30,000 บาท  ลักษณะนี้นักบัญชีจะเรียกว่า “ระบบบัญชีเดี่ยว (Single Entry)” คือแค่จดเป็นรายการๆ ไป - ทำให้ไม่เห็นภาพรวมว่าตอนนี้มีเงินสดเท่าไหร่ - สินค้าคงเหลือมากน้อยแค่ไหน  หากต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องจัดทำรายงานขึ้นมาเฉพาะข้อมูลที่ต้องการทราบ บางครั้งข้อมูลก็มีความคลาดเคลื่อน ระบบบัญชีเดี่ยวจึงมักใช้กับกิจการที่มีขนาดเล็กๆ เช่น กิจการเจ้าของคนเดียว  ดังนั้นเมื่อนักบัญชีต้องการให้ข้อมูลที่จดบันทึกสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา และได้ข้อมูลที่ถูกต้อง จะใช้วิธีการจดบันทึกด้วย “ระบบบัญชีคู่ (Double Entry)” โดยการจดบันทึกแบบนี้จะอยู่ภายใต้ข้อสมมติที่ว่า เหตุการณ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นมักสะท้อนถึง “สมการทางบัญชี” เสมอ นั้นคือ “สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ”  📌สมการบัญชี มาอธิบาย “สมการบัญชี” ให้เข้าใจง่ายๆ “สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ” ได้อย่างไร สมมติว่า ในบริษัทเรามีเงินสดอยู่ 1,000,000 บาท (สินทรัพย์) ซึ่งเงินสดนี้อาจจะได้มาจากการกู้ยืมธนาคาร 800,000 บาท (หนี้สิน) และเป็นเงินทุนของเจ้าของเอง 200,000 บาท (ส่วนของเจ้าของ) แล้วเหตุการณ์ทางธุรกิจจะสะท้อนถึงสมการทางบัญชีได้อย่างไร    ยกตัวอย่างเช่น ซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ในบริษัท ราคา 30,000 บาทเจ้าของร้านคอมพิวเตอร์ให้ชำระเงินสิ้นเดือนหน้าได้ รายการนี้จะสะท้อนสมการทางบัญชี โดยอธิบายได้ดังนี้ ซื้อคอมพิวเตอร์เข้ามา ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นมูลค่า 30,000 บาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินทำให้มีหนี้เพิ่มขึ้นอีก 30,000 บาทครับ เขียนเป็นสมการได้แบบนี้ครับ   คอมพิวเตอร์ (สินทรัพย์) 30,000 = เจ้าหนี้ร้านคอมพิวเตอร์ (หนี้สิน) 30,000   ตรงตามหลักการของระบบบัญชีคู่เลยครับ พอมีเหตุการณ์ทางธุรกิจเกิดขึ้นนักบัญชีก็จะนำเหตุการณ์เหล่านี้ไปบันทึกไว้ในเครื่องมือที่เรียกว่า “สมุดรายวัน”   📌สมุดรายวัน สมุดรายวันจะมีอยู่ 2 ประเภท เรียกว่า “สมุดรายวันขั้นต้น กับสมุดรายวันขั้นปลาย” ค่ะ สมุดรายวันขั้นต้น นักบัญชีจะใช้จดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ทางธุรกิจนี้แหละค่ะ  โดยใช้การ เดบิต และเครดิต เป็นสัญลักษณ์แทนการเคลื่อนไหวของสมการบัญชี (โดยไม่ได้หมายถึงหรือมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต)  โดยเดบิตจะแทนด้านซ้าย และเครดิตจะแทนด้านขวาครับ แต่ว่า เดบิต ไม่ได้แปลว่ารายการนั้นจะเพิ่มขึ้น และเครดิต ก็ไม่ได้แปลว่าลดลงเสมอไปนะครับ การเพิ่มขึ้นหรือลดลงจะขึ้นอยู่กับหมวดของบัญชีอีกทีค่ะ    ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >>https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran  🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

บัญชีแยกประเภท คืออะไร❓ผู้ประกอบการควรรู้


📌บัญชีแยกประเภทคืออะไร ทำไมธุรกิจต้องทำบัญชีแยกประเภท

บัญชีแยกประเภทเป็นหนึ่งในบัญชี 5 เล่มที่กิจการควรทำ เพราะเป็นบัญชีที่สรุปรายการต่างๆที่ผ่านมาจากสมุดบัญชีรายวัน โดยทำหน้าที่แยกประเภทและจัดเป็นหมวดหมู่ให้ดูง่าย จึงสะดวกในการจัดทำงบการเงินต่อไป


📌บัญชีแยกประเภท มี 2 ชนิด คือ

1.บัญชีแยกประเภททั่วไป

บัญชีแยกประเภททั่วไปเป็นบัญชีเล่มหลัก ที่รวบรวมยอดของบัญชีแยกประเภททุกบัญชี ประกอบไปด้วย บัญชีแยกประเภทสินทรัพย์, บัญชีแยกประเภทหนี้สิน, บัญชีแยกประเภทส่วนของเจ้าของ, บัญชีแยกประเภทรายได้ และบัญชีแยกประเภทค่าใช้จ่าย


ประกอบด้วย

- วัน เดือน ปี ที่มีการบันทึกรายการ

- ข้อมูลและรายการบัญชี

- จำนวนเงินเดบิต

- วัน เดือน ปี ที่มีการบันทึกรายการ

- ข้อมูลและรายการบัญชี

- จำนวนเงินเครดิต


2.บัญชีแยกประเภทย่อย

ในส่วนของบัญชีแยกประเภทย่อยเป็นเล่มบัญชีที่แสดงรายละเอียดเพิ่มขึ้นจากบัญชีทั่วไป ซึ่งจะมีบัญชีประเภทย่อยเจ้าหนี้ และบัญชีประเภทย่อยลูกหนี้ ที่แสดงรายละเอียดรายการและข้อมูลรายบุคคลทั้งหมด


ประกอบด้วย

- วัน เดือน ปี ที่มีการบันทึกรายการ

- ข้อมูลและรายการบัญชี

- หน้าบัญชีของสมุดบันทึกรายการ

- จำนวนเงินเดบิต

- จำนวนเงินเครดิต


📌ประโยชน์ของ บัญชีแยกประเภท

ทำให้เราสามารถเห็นการเพิ่มขึ้น หรือการลดลงของแต่ละบัญชีได้เลย นอกจากนี้นักบัญชียังใช้ “บัญชีแยกประเภท” ในการตรวจสอบรายการผิดปกติหรือรายการที่เกิดข้อผิดพลาดด้วย ซึงนักบัญชีจะใช้ตรวจสอบกับเอกสารจริงที่ใช้บันทึกบัญชี


📌เครื่องมือในการจดบันทึกของนักบัญชี

การจดบันทึกของนักบัญชีก็มีอยู่หลายแบบ เริ่มจากกิจการขนาดเล็ก จะมีการจดบันทึกเหตุการณ์ทางธุรกิจไว้เป็นรายการๆ ไปก่อน เช่น วันที่ 14 มกราคม ซื้อคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในสำนักงาน 30,000 บาท


ลักษณะนี้นักบัญชีจะเรียกว่า “ระบบบัญชีเดี่ยว (Single Entry)” คือแค่จดเป็นรายการๆ ไป

- ทำให้ไม่เห็นภาพรวมว่าตอนนี้มีเงินสดเท่าไหร่

- สินค้าคงเหลือมากน้อยแค่ไหน


หากต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องจัดทำรายงานขึ้นมาเฉพาะข้อมูลที่ต้องการทราบ บางครั้งข้อมูลก็มีความคลาดเคลื่อน ระบบบัญชีเดี่ยวจึงมักใช้กับกิจการที่มีขนาดเล็กๆ เช่น กิจการเจ้าของคนเดียว


ดังนั้นเมื่อนักบัญชีต้องการให้ข้อมูลที่จดบันทึกสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา และได้ข้อมูลที่ถูกต้อง จะใช้วิธีการจดบันทึกด้วย “ระบบบัญชีคู่ (Double Entry)” โดยการจดบันทึกแบบนี้จะอยู่ภายใต้ข้อสมมติที่ว่า เหตุการณ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นมักสะท้อนถึง “สมการทางบัญชี” เสมอ นั้นคือ

“สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ”


📌สมการบัญชี

มาอธิบาย “สมการบัญชี” ให้เข้าใจง่ายๆ “สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ” ได้อย่างไร สมมติว่า ในบริษัทเรามีเงินสดอยู่ 1,000,000 บาท (สินทรัพย์) ซึ่งเงินสดนี้อาจจะได้มาจากการกู้ยืมธนาคาร 800,000 บาท (หนี้สิน) และเป็นเงินทุนของเจ้าของเอง 200,000 บาท (ส่วนของเจ้าของ) แล้วเหตุการณ์ทางธุรกิจจะสะท้อนถึงสมการทางบัญชีได้อย่างไร

ยกตัวอย่างเช่น ซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ในบริษัท ราคา 30,000 บาทเจ้าของร้านคอมพิวเตอร์ให้ชำระเงินสิ้นเดือนหน้าได้ รายการนี้จะสะท้อนสมการทางบัญชี โดยอธิบายได้ดังนี้ ซื้อคอมพิวเตอร์เข้ามา ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นมูลค่า 30,000 บาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินทำให้มีหนี้เพิ่มขึ้นอีก 30,000 บาทครับ เขียนเป็นสมการได้แบบนี้ครับ

คอมพิวเตอร์ (สินทรัพย์) 30,000 = เจ้าหนี้ร้านคอมพิวเตอร์ (หนี้สิน) 30,000

ตรงตามหลักการของระบบบัญชีคู่เลยครับ พอมีเหตุการณ์ทางธุรกิจเกิดขึ้นนักบัญชีก็จะนำเหตุการณ์เหล่านี้ไปบันทึกไว้ในเครื่องมือที่เรียกว่า “สมุดรายวัน”


📌สมุดรายวัน

สมุดรายวันจะมีอยู่ 2 ประเภท เรียกว่า “สมุดรายวันขั้นต้น กับสมุดรายวันขั้นปลาย” ค่ะ สมุดรายวันขั้นต้น นักบัญชีจะใช้จดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ทางธุรกิจนี้แหละค่ะ


โดยใช้การ เดบิต และเครดิต เป็นสัญลักษณ์แทนการเคลื่อนไหวของสมการบัญชี (โดยไม่ได้หมายถึงหรือมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต)


โดยเดบิตจะแทนด้านซ้าย และเครดิตจะแทนด้านขวาครับ แต่ว่า เดบิต ไม่ได้แปลว่ารายการนั้นจะเพิ่มขึ้น และเครดิต ก็ไม่ได้แปลว่าลดลงเสมอไปนะครับ การเพิ่มขึ้นหรือลดลงจะขึ้นอยู่กับหมวดของบัญชีอีกทีค่ะ


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 94 ครั้ง
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page