top of page

Business Model Canvas (BMC) คืออะไร❓


Business Model Canvas (BMC) คืออะไร❓  เพราะการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปนัก หากเรามีการวางแผนทำธุรกิจที่ดี ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยในการวางแผนทำธุรกิจแบบมืออาชีพที่หลายองค์กรใช้กันก็คือ Business Model Canvas ใช้รวบรวมข้อมูลสำคัญ นำมาวิเคราะห์ วางแผน และประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้  การทำธุรกิจแบบมืออาชีพด้วยการใช้เครื่องมือสำหรับวางแผนทำธุรกิจอย่าง Business Model Canvas จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสเติบโตได้มากยิ่งขึ้น และสามารถจัดการธุรกิจได้อย่างมีระบบ ซึ่งการวางแผนกำหนดทิศทางธุรกิจจะทำให้ทุกคนในทีมมีความเข้าใจเดียวกัน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก่อนจะเริ่มวางแผนธุรกิจ เรามาทำความรู้จัก Business Model Canvas กันก่อนเลย  📍BMC : Business Model Canvas คืออะไร? BMC : Business Model Canvas คือ แผนธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่เขียนออกมาให้อยู่ในกรอบของพื้นผ้าใบแผ่นเดียว บางครั้งเครื่องมือนี้ก็ถูกเรียกว่า “Canvas Business Model” หรือ “Canvas  Model” ขอให้เข้าใจว่ามันคือเรื่องเดียวกันครับ รายละเอียดในผืนผ้าใบจะช่วยในการตอบคำถามบางประการของ 5W1H ได้แก่ WHAT , WHO , WHEN , WHERE , WHY และ HOW แยกออกเป็น 9 ปัจจัยดังต่อไปนี้  📍ขั้นตอนและคำอธิบายในแต่ละช่องของ Business Model Canvas (BMC) 1.คิดก่อนว่าจุดมุ่งหมายของธุรกิจคุณคืออะไร สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ การกำหนดให้ออกก่อนว่า เส้นชัยของธุรกิจคุณคืออะไร เพื่อที่จะได้วัดในตอนจบได้ว่า โมเดลหรือแผนธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ มันจะช่วยพาคุณไปถึงเส้นชันได้จริงหรือเปล่านั้นเอง และแน่นอนว่าจุดเป้าหมายของธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องผลกำไรด้านเงินเท่านั้น อาจะจะเป็นผลประโยชน์ต่อส่วนรวม หรือด้านจิตใจก็ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น  - เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าในป่าแถบชายแดน - สร้างเพิ่มผลกำไรอีก 20% ภายในสิ้นปีนี้ - เพื่อรักษาประเพณีของชนเผ่าพื้นเมือง และสร้างรายได้ตอบแทนให้กลุ่มชนเผ่า  2.Value Proposition  Value Proposition จัดเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐานใน Business model canvas (BMC)ที่ทุกธุรกิจควรจะมีก่อนเริ่มทำการตลาด ซึ่งมันก็คือ คอนเซ็ปของคุณค่าที่แบรนด์สามารถมอบให้แก่ลูกค้า หรืออะไรเป็นสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา Value proposition ไม่ได้หมายถึงว่าลูกค้าซื้ออะไร แต่เป็น “ทำไมต้องซื้อ” สินค้าหรือบริการของเราสามารถตอบปัญหา หรือช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างไร คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับกลับไปหลังที่เขาจ่ายเงินเรานั้นเอง อาจจะเป็นการสร้างคุณค่าทางด้านสุขภาพ ภาพลักษณ์ ก็ได้ เพราะฉะนั้นการหาคุณค่าของธุรกิจเราให้เจอ นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  - ปัญหาอะไรที่ธุรกิจของเราสามารถแก้ไขได้ - ทำไมลูกค้าถึงต้องการสินค้าหรือบริการของเรา - มีแรงจูงใจอะไรเพิ่มเติม ลูกค้าถึงจะอยากได้สินค้าของเรา  3.Customer Segments ช่องใน Business canvas model ช่องนี้หมายถึง แบรนด์จะต้องเข้าใจว่า ลูกค้าของเราเป็นอย่างไร อยู่ในกลุ่มแบบไหนหรือแยกเป็นอย่างไร ที่มีความเหมือนกันไม่ว่าจะเป็น อายุ เพศ ความสนใจ หรือรูปแบบการจับจ่ายใช้สอย และกลุ่มลุกค้าของคุณเป็นแบบในกลุ่มขนาดใหญ่ หรือค่อนข้างจะเฉพาะเจาะจง การเข้าใจกลุ่มลูกค้าจะช่วยให้เราวางแผนช่องทาง (channel) หรือรูปแบบการตลาดอื่นๆ ได้อย่างตรงจุด  - ใครที่เราต้องการจะแก้ไขปัญหาให้  - ใครจะที่ชื่นชอบและเห็นคุณค่าจากสินค้าของเรา - สินค้าเราจะเป็นที่สนใจในกลุ่มลูกค้าผู้หญิง หรือผู้ชายมากกว่ากัน   4.Customer Relationships  หลังจากเข้าใจ Value proposition และ Customer segment แล้ว ก็สามารถเข้าใจ Customer relationship ได้ไม่ยาก ซึ่งนี้ก็หมายถึงว่า เราจะมีส่วนร่วมกับลูกค้ากลุ่มนั้นๆ ได้อย่างไร โดยจะเป็นความสัมพันธ์ระยะสั้น หรือระยะยาว ลูกค้าของเราชื่นชอบการคุยกับพนักงาน ทางโทรศัพท์ หรือโดยตรง? จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือใดๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ และเราจะสามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าของเราได้อย่างไร ซึ่งหากทำได้ดี ลูกค้าก็จะมีความชื่นชอบและกลายเป็นลูกค้าประจำได้นั้นเอง - สินค้าของเราจำเป็นที่จะต้องมีบริการหลังการขายหรือ  Call center - ลูกค้าชื่นชอบที่จะชมสินค้า หรือถามรายละเอียดจากพนักงานแนะนำสินค้า  5.Chanel  อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญใน Business canvas model ก็คือ “ช่องทาง” ที่เราจะใช้ในการเข้าถึงลูกค้าของเรานั้นเอง เช่นเดียวกับ เราจะส่งมอบสินค้าของเราได้ทางช่องทางไหน รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นในทางออฟไลน์ หรืออนไลน์ก็ตาม ธุรกิจควรวางแผนช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าตั้งแต่เริ่มไปจนถึงหลังการขาย โดยช่องทางนั้นมีหลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ ทีวี ป้ายโฆษณา เว็บไซต์ ฯลฯ - ลูกค้ามีการใช้โชเชีบลมีเดียหรือไม่ หากใช่ จะเป็นช่องทางใด - ลูกค้าชื่นชอบไปงานอีเวนท์ต่างๆหรือไม่  6.Key resource  สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันใน Business Model Canvas  สำหรับการจัดการธุรกิจ ก็คือ เรื่องของ “ทรัพยากร” นั้นเอง ซึ่งรวมไปถึง เครื่องจักร กำลังคน แรงงาน หรือจะเป็นลิขสิทธิต่างๆก็สำคัญ คุณไม่จำเป็นจะต้องนั่งใส่ทรัพยากรทั้งหมดที่ธุรกิจของคุณมี แค่ทรัพยากรหลักๆ ที่ถ้าหากว่าขาดไปแล้วละก็ ธุรกิจจะไม่สามารถทำงานต่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็พอ โดยอาจจะแยกเป็นทรัพยากรที่เรามีอยู่ กับ ทรัพยากรที่ธุรกิจควรมี    7.Key Partners  Key partners นั้นก็คือ กลุ่มคน หรือธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเรา ธุรกิจส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมี Partner กันทั้งนั้น เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระ หรือมาเพิ่มกำลัง ประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ได้ โดย Business canvas model ก็ได้มีช่องนี้เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจพาร์ทเนอร์ว่า พวกเขามีประโยชน์ต่อแบรนด์คุณอย่างไร และจะช่วยให้ธุรกิจของคุณไปถึงจุดมุ่งหมายได้หรือไม่ - พาร์ทเนอร์ช่วยผลิตวัตถุดิบให้กับคุณ ในระยะเวลาที่สั้นกว่า และงบประมาณที่น้อยกว่า - พาร์ทเนอร์กับบริษัท HR เพื่อช่วยจัดการเรื่องบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพกว่า  8.Key Activities  สำหรับช่อง Key activities ใน Business canvas model  นี้หมายถึง กิจกรรมหลักๆ หรือขั้นตอนที่จำเป็นจะต้องผ่านก่อนส่งมอบสินค้าให้ลูกค้านั้นเอง ซึ่งธุรกิจหลายๆ ธุรกิจก็จะมีขั้นตอนหรือ Key activites ที่ต่างกันออกไป โดยคุณจะต้องวางแผนไปจนถึงระยะเวลาของแต่ละกิจกรรม เลยทีเดียว  9.Cost Structure  อีกหนึ่งองค์ประกอบสุดสำคัญใน Business canvas model หรือก็คือ “ต้นทุน” นั้นเอง ซึ่งใน Business canvas model นี้คุณสามารถร่างรายจ่ายหลักๆ ที่จำเป็น และมันสามารถเพิ่มหรือลดยอดการขายอย่างไร มีความจำเป็นอย่างไร โดยอาจจะเป็นรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินไป เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายที่ให้เพื่อเพิ่มยอดกำไร เช่น ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าสินค้าเป็นต้น  10.Revenue Streams  Revenue streams ใน Business Model Canvas จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงช่องทางของรายได้จากช่องทางต่างๆ หรือจากกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน การแยกรายได้ออกจะช่วยให้เราเห็นว่า ช่องทางไหนมีโอกาสมากกว่าช่องทางใด หรือกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดมีการซื้อบ่อยกว่า และผ่านช่องทางใด เป็นต้น  ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >>https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran  🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

Business Model Canvas (BMC) คืออะไร


เพราะการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปนัก หากเรามีการวางแผนทำธุรกิจที่ดี ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยในการวางแผนทำธุรกิจแบบมืออาชีพที่หลายองค์กรใช้กันก็คือ Business Model Canvas ใช้รวบรวมข้อมูลสำคัญ นำมาวิเคราะห์ วางแผน และประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้


การทำธุรกิจแบบมืออาชีพด้วยการใช้เครื่องมือสำหรับวางแผนทำธุรกิจอย่าง Business Model Canvas จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสเติบโตได้มากยิ่งขึ้น และสามารถจัดการธุรกิจได้อย่างมีระบบ ซึ่งการวางแผนกำหนดทิศทางธุรกิจจะทำให้ทุกคนในทีมมีความเข้าใจเดียวกัน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก่อนจะเริ่มวางแผนธุรกิจ เรามาทำความรู้จัก Business Model Canvas กันก่อนเลย


📍BMC : Business Model Canvas คืออะไร?

BMC : Business Model Canvas คือ แผนธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่เขียนออกมาให้อยู่ในกรอบของพื้นผ้าใบแผ่นเดียว บางครั้งเครื่องมือนี้ก็ถูกเรียกว่า “Canvas Business Model” หรือ “Canvas Model” ขอให้เข้าใจว่ามันคือเรื่องเดียวกันครับ รายละเอียดในผืนผ้าใบจะช่วยในการตอบคำถามบางประการของ 5W1H ได้แก่ WHAT , WHO , WHEN , WHERE , WHY และ HOW แยกออกเป็น 9 ปัจจัยดังต่อไปนี้


📍ขั้นตอนและคำอธิบายในแต่ละช่องของ Business Model Canvas (BMC)

1.คิดก่อนว่าจุดมุ่งหมายของธุรกิจคุณคืออะไร

สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ การกำหนดให้ออกก่อนว่า เส้นชัยของธุรกิจคุณคืออะไร เพื่อที่จะได้วัดในตอนจบได้ว่า โมเดลหรือแผนธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ มันจะช่วยพาคุณไปถึงเส้นชันได้จริงหรือเปล่านั้นเอง และแน่นอนว่าจุดเป้าหมายของธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องผลกำไรด้านเงินเท่านั้น อาจะจะเป็นผลประโยชน์ต่อส่วนรวม หรือด้านจิตใจก็ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

- เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าในป่าแถบชายแดน

- สร้างเพิ่มผลกำไรอีก 20% ภายในสิ้นปีนี้

- เพื่อรักษาประเพณีของชนเผ่าพื้นเมือง และสร้างรายได้ตอบแทนให้กลุ่มชนเผ่า


2.Value Proposition

Value Proposition จัดเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐานใน Business model canvas (BMC)ที่ทุกธุรกิจควรจะมีก่อนเริ่มทำการตลาด ซึ่งมันก็คือ คอนเซ็ปของคุณค่าที่แบรนด์สามารถมอบให้แก่ลูกค้า หรืออะไรเป็นสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา Value proposition ไม่ได้หมายถึงว่าลูกค้าซื้ออะไร แต่เป็น “ทำไมต้องซื้อ” สินค้าหรือบริการของเราสามารถตอบปัญหา หรือช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างไร คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับกลับไปหลังที่เขาจ่ายเงินเรานั้นเอง อาจจะเป็นการสร้างคุณค่าทางด้านสุขภาพ ภาพลักษณ์ ก็ได้ เพราะฉะนั้นการหาคุณค่าของธุรกิจเราให้เจอ นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

- ปัญหาอะไรที่ธุรกิจของเราสามารถแก้ไขได้

- ทำไมลูกค้าถึงต้องการสินค้าหรือบริการของเรา

- มีแรงจูงใจอะไรเพิ่มเติม ลูกค้าถึงจะอยากได้สินค้าของเรา


3.Customer Segments

ช่องใน Business canvas model ช่องนี้หมายถึง แบรนด์จะต้องเข้าใจว่า ลูกค้าของเราเป็นอย่างไร อยู่ในกลุ่มแบบไหนหรือแยกเป็นอย่างไร ที่มีความเหมือนกันไม่ว่าจะเป็น อายุ เพศ ความสนใจ หรือรูปแบบการจับจ่ายใช้สอย และกลุ่มลุกค้าของคุณเป็นแบบในกลุ่มขนาดใหญ่ หรือค่อนข้างจะเฉพาะเจาะจง การเข้าใจกลุ่มลูกค้าจะช่วยให้เราวางแผนช่องทาง (channel) หรือรูปแบบการตลาดอื่นๆ ได้อย่างตรงจุด

- ใครที่เราต้องการจะแก้ไขปัญหาให้

- ใครจะที่ชื่นชอบและเห็นคุณค่าจากสินค้าของเรา

- สินค้าเราจะเป็นที่สนใจในกลุ่มลูกค้าผู้หญิง หรือผู้ชายมากกว่ากัน


4.Customer Relationships

หลังจากเข้าใจ Value proposition และ Customer segment แล้ว ก็สามารถเข้าใจ Customer relationship ได้ไม่ยาก ซึ่งนี้ก็หมายถึงว่า เราจะมีส่วนร่วมกับลูกค้ากลุ่มนั้นๆ ได้อย่างไร โดยจะเป็นความสัมพันธ์ระยะสั้น หรือระยะยาว ลูกค้าของเราชื่นชอบการคุยกับพนักงาน ทางโทรศัพท์ หรือโดยตรง? จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือใดๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ และเราจะสามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าของเราได้อย่างไร ซึ่งหากทำได้ดี ลูกค้าก็จะมีความชื่นชอบและกลายเป็นลูกค้าประจำได้นั้นเอง

- สินค้าของเราจำเป็นที่จะต้องมีบริการหลังการขายหรือ Call center

- ลูกค้าชื่นชอบที่จะชมสินค้า หรือถามรายละเอียดจากพนักงานแนะนำสินค้า


5.Chanel

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญใน Business canvas model ก็คือ “ช่องทาง” ที่เราจะใช้ในการเข้าถึงลูกค้าของเรานั้นเอง เช่นเดียวกับ เราจะส่งมอบสินค้าของเราได้ทางช่องทางไหน รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นในทางออฟไลน์ หรืออนไลน์ก็ตาม ธุรกิจควรวางแผนช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าตั้งแต่เริ่มไปจนถึงหลังการขาย โดยช่องทางนั้นมีหลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ ทีวี ป้ายโฆษณา เว็บไซต์ ฯลฯ

- ลูกค้ามีการใช้โชเชีบลมีเดียหรือไม่ หากใช่ จะเป็นช่องทางใด

- ลูกค้าชื่นชอบไปงานอีเวนท์ต่างๆหรือไม่


6.Key resource

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันใน Business Model Canvas สำหรับการจัดการธุรกิจ ก็คือ เรื่องของ “ทรัพยากร” นั้นเอง ซึ่งรวมไปถึง เครื่องจักร กำลังคน แรงงาน หรือจะเป็นลิขสิทธิต่างๆก็สำคัญ คุณไม่จำเป็นจะต้องนั่งใส่ทรัพยากรทั้งหมดที่ธุรกิจของคุณมี แค่ทรัพยากรหลักๆ ที่ถ้าหากว่าขาดไปแล้วละก็ ธุรกิจจะไม่สามารถทำงานต่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็พอ โดยอาจจะแยกเป็นทรัพยากรที่เรามีอยู่ กับ ทรัพยากรที่ธุรกิจควรมี


7.Key Partners

Key partners นั้นก็คือ กลุ่มคน หรือธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเรา ธุรกิจส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมี Partner กันทั้งนั้น เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระ หรือมาเพิ่มกำลัง ประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ได้ โดย Business canvas model ก็ได้มีช่องนี้เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจพาร์ทเนอร์ว่า พวกเขามีประโยชน์ต่อแบรนด์คุณอย่างไร และจะช่วยให้ธุรกิจของคุณไปถึงจุดมุ่งหมายได้หรือไม่

- พาร์ทเนอร์ช่วยผลิตวัตถุดิบให้กับคุณ ในระยะเวลาที่สั้นกว่า และงบประมาณที่น้อยกว่า

- พาร์ทเนอร์กับบริษัท HR เพื่อช่วยจัดการเรื่องบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพกว่า


8.Key Activities

สำหรับช่อง Key activities ใน Business canvas model นี้หมายถึง กิจกรรมหลักๆ หรือขั้นตอนที่จำเป็นจะต้องผ่านก่อนส่งมอบสินค้าให้ลูกค้านั้นเอง ซึ่งธุรกิจหลายๆ ธุรกิจก็จะมีขั้นตอนหรือ Key activites ที่ต่างกันออกไป โดยคุณจะต้องวางแผนไปจนถึงระยะเวลาของแต่ละกิจกรรม เลยทีเดียว


9.Cost Structure

อีกหนึ่งองค์ประกอบสุดสำคัญใน Business canvas model หรือก็คือ “ต้นทุน” นั้นเอง ซึ่งใน Business canvas model นี้คุณสามารถร่างรายจ่ายหลักๆ ที่จำเป็น และมันสามารถเพิ่มหรือลดยอดการขายอย่างไร มีความจำเป็นอย่างไร โดยอาจจะเป็นรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินไป เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายที่ให้เพื่อเพิ่มยอดกำไร เช่น ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าสินค้าเป็นต้น


10.Revenue Streams

Revenue streams ใน Business Model Canvas จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงช่องทางของรายได้จากช่องทางต่างๆ หรือจากกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน การแยกรายได้ออกจะช่วยให้เราเห็นว่า ช่องทางไหนมีโอกาสมากกว่าช่องทางใด หรือกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดมีการซื้อบ่อยกว่า และผ่านช่องทางใด เป็นต้น


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 419 ครั้ง

Comentarios


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page