Pestel analysis คืออะไร❓มีประโยชน์อย่างไร❓
Pestel analysis คืออะไร❓มีประโยชน์อย่างไร❓
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลกหรือแม้กระทั่งระดับประเทศมีการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนและมีการแข่งขันที่สูงขึ้น องค์กรและผู้บริหารล้วนต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่ การให้ความสำคัญกับการวางแผนและวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ เครื่องมืออย่าง PESTEL Analysis คือ หนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ธุรกิจสามารถพิจารณาถึงการแข่งขันในสภาพแวดล้อมมหภาคได้รอบด้าน ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยของท่านทุกคน ไปชมกันเลย
PESTEL Analysis คือ กรอบการคิดเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ในการประเมินสภาพแวดล้อมภายนอกของธุรกิจ โดยแบ่งโอกาสและความเสี่ยงออกเป็นปัจจัยต่างๆ 6 ปัจจัย โดยคำว่า PESTLE ไม่มีความหมายใดๆ เป็นเพียงเครื่องมือช่วยจำ ซึ่งแต่ละตัวอักษรหมายความถึง
- P : Political = ปัจจัยด้านการเมือง
- E : Economic = ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ
- S : Social = ปัจจัยด้านสังคม
- T : Technological = ปัจจัยด้านเทคโนโลยี
- L : Legal = ปัจจัยด้านกฎหมาย
- E : Environmental = ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม
🔹Political Factors (P) ปัจจัยด้านการเมือง
ปัจจัยทางการเมืองที่มีเข้ามามีผลต่อภาวะเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งมีผลต่อองค์กรหรือธุรกิจอย่างมากซึ่งอาจเป็นผลบวกหรือผลกระทบการองค์กรหรือธุรกิจได้ ตัวอย่างเช่น
· รัฐบาลจะมีนโยบายสำคัญๆ อย่างไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร ส่งผลบวกหรือผลลบต่อธุรกิจ
· นโบายของรัฐที่แสดงถึงความสัมพันธ์กับต่างประเทศซึ่งอาจมีผลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
· ความมีเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างมาก มีปัญหาทางการเมืองบ่อยหรือไม่ รัฐบาลเสียงในสภามากพอหรือไม่ มีการทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่เห็นด้วยของประชาชน ซึ่งสามารถนำมาซึ่งการเกิดการประท้วงภายในประเทศได้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติและนักธุรกิจในประเทศไม่กล้าที่ลงทุน
· นโยบายด้านภาษี หรือ สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ในธุรกิจที่รัฐส่งเสริมอาจได้ลดภาษีมากกว่าธุรกิจอื่น
· การเข้าร่วมเขตการค้าเสรี ไม่ว่าจะเป็น RCEP หรือ CPTPP อย่างส่งผลให้ธุรกิจได้เปรียบในเชิงภาษีในการส่งออก หรือ เป็นผลเสียจากลดภาษีให้สินค้าที่ประเทศในเขตการค้าเสรีมาต่อตลาดในประเทศ
🔹Economic Factors (E) ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางเศรษฐกิจนับว่าเป็นหนึ่งอีกตัวแปรสำคัญมากในการวิเคราะห์บริษัท และมีหลายสิ่งในปัจจัยเศรษฐกิจที่เราควรให้ความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น
· ตัวเลข GDP ภายในประเทศจะเป็นบวกหรือเป็นลบ ในแต่ละไตรมาส
· อัตราการว่าง มีเพิ่มขึ้นหรือลดลง
· อัตราดอกเบี้ย เป็นอย่างไร ซึ่งส่งผลต่อ กลุ่มอุตสาหกรรมที่เราสนใจอยู่หรือไม่
· หนี้สินภายในประเทศ รวมถึงตัวเลข NPL ถ้ามากคนอาจจะใช้จ่ายน้อยลง
· ค่าเงินบาท อ่อนหรือแข็ง ซึ่งส่งผลต่อการส่งออกหรือนำเข้า
· ต้นทุน เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าขนส่ง ต้นทุนวัตถุดิบ
🔹Social Factors (S) ปัจจัยด้านสังคม
เป็นการวิเคราะห์ถึงสภาพความเป็นอยู่ โครงสร้างประชากร วัฒนธรรม ประเพณีต่างๆของคนในประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อธุรกิจหรือการลงทุนอย่างมาก เช่น
· พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า แต่ละ เพศ ช่วงอายุ ภูมิภาค ต่างกันออกไป
· จำนวนประชากรผู้สูงอายุสูงขึ้นทำให้ธุรกิจที่ดูแลผู้สูงอายุเกิดตลาดเพิ่มขึ้น
· อัตราการเกิด ซึ่งมีผลต่อบางธุรกิจเช่น สินค้าสำหรับเด็ก โรงเรียนอนุบาลและประถม
· การใส่ใจในสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มคนรักษาสุขภาพมากขึ้น ธุรกิจอาหารปลอดสารภัยมีแนวโน้มเติบโตอย่างสูง
· แนวโน้มและทัศนคติทางอาชีพ คนมีแนวโน้มเรียนสูงขึ้นเรื่อยๆ งานใช้แรงงานอาจต้องในแรงงานต่างด้าวมากขึ้น หรือ เปลี่ยนไปใช้หุ่นยนต์แทน
· รูปแบบการใช้ชีวิต Lifestyle เป็นอย่างไร แต่ละสังคมหรือแต่ละประเทศแตกต่างกัน อะไรเป็นกระแสที่สังคมกำลังสนใจ
🔹Technology Factors (T) ปัจจัยด้านเทคโนโลยี
ปัจจัยทางเทคโนโลยีที่กระทบต่อตลาดและการบริหารจัดการธุรกิจสามารถแบ่งได้เป็น 3 หัวข้อใหญ่คือ
1. แนวทางใหม่ในการผลิตสินค้า (New ways of producing goods and services)
2. แนวทางใหม่ในการส่งสินค้าและบริการให้ถึงมือผู้บริโภค (New ways of distributing goods and services)
3. แนวทางใหม่ในการส่งสารถึงกลุ่มเป้าหมาย (New ways of communicating with target markets)
นอกจากนี้ตัวอย่างการวิเคราะห์ถึงเทคโนโลยีที่มีอยู่และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่ สามารถนำเทคโนโลยีมีใช้ประโยชน์ทำให้บริษัทเราเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นหรือไม่หรือนำมาลดต้นทุนการผลิต (จะ Disrupt หรือจะโดน Disrupt)
· การพัฒนาเครือข่าย 5G ทำให้เกิดการพัฒนาระบบใหม่ๆ ในห่วงโซ่อุปทานที่สามารถลดขั้นตอน ลดเวลาและลดต้นทุนของธุรกิจได้
· ระบบ Steaming เช่น Youtube หรือ Netflix ทำให้อุตสาหกรรมคอนเทนต์เช่น โทรทัศน์ ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด
· หุ่นยนต์ หรือ Robot มาใช้ในไลน์การผลิต
· รถไฟฟ้าใช้พลังแบตเตอรี่ เข้ามา ผลดีสร้างธุรกิจใหม่ ผลเสียอุตสาหกรรมเก่าๆ อาจอยู่ไม่ได้
🔹Environment Factors (E) ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
ปัจจัยนี้มีความสำคัญอย่างมากใน 15 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน การลดใช้ถุงพลาสติก บางประเทศออกกฎหมาย Carbon credit การขายรถใหม่ต้องมีการคิดเครดิตคาร์บอน ทำให้รถที่ใช้น้ำมันมีปัญหาอย่างยิ่งโดยเฉพาะการขายในประเทศยุโรป ในฐานะองค์กรหรือการทำธุรกิจต้องใส่เรื่องนี้ซึ่งเป็นเทรนต์ของโลกและผู้บริโภคเริ่มเข้าใจและใส่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ
🔹Legal Factors (L) ปัจจัยด้านกฎหมาย
ปัจจัยด้านกฎหมาย หรือ มีข้อจำกัดอะไร มาส่งผลลบหรือผลบวกต่อองค์กรหรือไม่
· ค่าแรงขั้นต่ำ
· กฎหมายแรงงาน
· กฎหมายแรงงานต่างด้าว
· กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เช่น อย. หรือ มอก.
· กฎหมายเกี่ยวกับภาษี
· กฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณา เช่น กฎหมายที่ออกมาใหม่ไม่นานได้แก่ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์
🔹Ethical Factors (E) ปัจจัยด้านจริยธรรม
เป็นปัจจัยตัวใหม่ของ PESTEL โดยเพิ่มตัว E เข้ามาทำให้เกิดเป็น PESTELE หรือ STEEPLE ซึ่ง Ethical Factors (E) ปัจจัยด้านจริยธรรม เกี่ยวข้องกับจริยธรรมทางธุรกิจ เกี่ยวกับนโยบายการบริหารและวิธีปฏิบัติงานของธุรกิจ และความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากการทำธุรกิจที่ได้กำไรและยอดขายแล้ว ธุรกิจยังต้องอยู่ในบรรทัดฐานของกฎหมายและจริยธรรมที่ดีด้วย การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องของกำไรขาดทุนอย่างเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะการค้าขายอย่างเป็นธรรม การไม่ใช่แรงงานเด็กและไม่ใช้แรงงานเยี่ยงทาสรวมถึงธุรกิจควรต้องใส่ใจและรับผิดชอบต่อความต้องการของสังคมด้วยหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า corporate social responsibility (CSR)
🔹ประโยชน์ของ Pestel analysis
PESTEL Analysis เป็นเครื่องมืออย่างดีในการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกและสภาวะทางมหภาค ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวแรกๆ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ธุรกิจ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปต่อยอดในกลยุทธ์อื่นๆ
การวิเคราะห์ pestel หรือ pestele ใช้ในการประยุกต์และเป็นเครื่องมืออย่างดีในการช่วยหาในส่วนของปัจจัยภายนอกของ SWOT คือ ส่วนที่เรียกว่า opportunity และ threat และเมื่อใช้คู่กับ Five Force Model จะทำให้การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Comments